ทางด้านเพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพของ "ครูอ้วน มณีนุช" ครูสอนร้องเพลง ที่โผล่ร่วมเฟรมกับ "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป (The iCon Group) และนักแสดงดัง "กันต์ กันตถาวร" พร้อมข้อความ "ยินดีต้อนครูอ้วนมณีนุช เสมรสุด"
ทางด้านเฟซบุ๊กเพจ อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพพร้อมระบุว่า "ตรวจพบคุณครูท่านหนึ่ง ... เบื่อแล้วสอนร้องเพลง ผันตัวมาเป็นครอบครัวดิไอคอน"
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2567 ครูอ้วน ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า "ใจเย็นๆนะคะ ภาพนี้นานมากแล้วเท่าที่จำได้ ได้มีทีมงานติดต่อมาแจ้งว่าสนใจอยากให้เข้ามาเป็น Partner กับธุรกิจนี้ซึ่งก็ไม่ทราบว่าคืออะไร จึงนัดเข้าไปขอคุยกันดูก่อน ซึ่งพอเข้าไปคุยแล้ว ก็อย่างที่หลายๆท่านออกมาพูดกันเลยค่ะ ซึ่งไม่ใช่ทางของครูอ้วนเลยไม่มีการประสานงานต่อแต่อย่างใดค่ะ"
"ส่วนรูปที่เห็นคือ มีหนึ่งในทีมงานที่ติดต่อมาขอนำรูปนี้เพื่อขอใช้ต้อนรับการเข้าไปคุยกันในครั้งนั้นค่ะ ก็ตกใจเช่นกันค่ะเพราะพอไปถึงไม่คิดว่าจะขึ้นรูปใหญ่และทางการขนาดนี้ หากอยากทราบรายละเอียดที่คุยในวันนั้นสามารถติดต่อมาได้เลยค่ะ ไม่มีอะไรปิดบังแน่นอนค่ะ"
ต่อมาทางด้าน ครูอ้วน ออกจดหมายชี้แจงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ระบุว่า ขออนุญาตชี้แจง เรื่องภาพของครูอ้วน จากในเพจ @อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อมด้วยความสัตย์จริง และจริงใจที่สุดค่ะ
จากภาพที่เห็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ
1. มีทีมงานติดต่อผ่านมาทางเลขาของครูอ้วน แจ้งว่าสนใจให้ครูอ้วนร่วมเป็น Partner กับทางบริษัทดังกล่าว ในปี 2565 ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่า ธุรกิจนี้คืออะไร แต่พอจะเห็นตามป้ายโฆษณาอยู่บ้าง จึงแจ้งเลขาให้สอบถามว่า Partner คือการทำอะไร "คำตอบก็คือ ร่วมเป็นPartner กับทางบริษัท" ไม่มีคำตอบอื่น ในส่วนตัวอ้วนเองได้มีการสอบถามจากคนที่รู้จัก ว่ามีชื่อของบอส ที่ติดต่อมาจริงหรือไม่ และได้รับการยืนยันว่า บอสท่านนั้นมีตัวตนจริงและไว้ใจได้
2. ในช่วงปี 2565 ด้วยความสงสัยอยากรู้ว่าธุรกิจที่ติดต่อมาคืออะไร จึงขอนัดคุยงานกัน ก่อนยังไม่มการตอบตกลงใดๆทั้งสิ้นค่ะ
3. ก่อนวันเข้าไปคุย ได้มีทีมงานแจ้งว่า (ขอใช้รูปดังกล่าวที่ทางเพจ อีซ้อขยี้ข่าว ) เพื่อเปิดต้อนรับในการเข้ามาคุยงาน ซึ่งเป็นภาพที่ครูอ้วนเคยได้ลงไว้ใน Instagram Facebook กรณีนี้ค่อนข้างตกใจเช่นกันค่ะเพราะเมื่อไปถึง ภาพใหญ่กลางบริษัทและเป็นทางการมากค่ะ(แบบไม่คาดคิดมาก่อน)
4.ในการสนทนาวันนั้น มีบอสท่านหนึ่ง และมีอีกสองท่านที่มากับบอสท่านนี้ค่ะ ในการสนทนาจะมีสไลด์ขึ้นบนจอทีวี บทสนทนาค่อนข้างวกวนเล็กน้อยค่ะ เพราะสิ่งที่ได้คือ ผลประโยชน์ที่จะได้คือมหาศาสมาก รถ บ้าน จำนวนเงิน แต่ยังไม่ทราบว่าต้องทำอะไร และให้ขอให้อ้วนได้ลองเข้าคอร์สออนไลน์ สิ่งที่ทำให้รู้ว่าไม่สบายใจในการสนทนาครั้งนั้น ทางบอสท่านนั้นได้ก้าวล่วงมาถึงการงานของครูอ้วน โดยบอกว่าครูอ้วนมีนักเรียนเยอะทำงานมานาน ตรงนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ดีมากๆในการทำธุรกิจนี้ หลังจากนั้นอ้วนเองจึงไม่พูดอะไรอีก ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางทีมของบอส และบริษัทติดต่อโดยตรงกับทางเลขาของครูอ้วน เนื่องจากเลขาครูอ้วนจะไม่ให้ Contact กับใครหากครูอ้วนไม่อนุญาตค่ะ
5.เมื่อการสนทนาเรียบร้อยแล้ว บอสท่านนั้น และ ทีมได้ขออนุญาต พาอ้วนเดินทัวร์ทุกชั้นของบริษัท ทุกห้อง รวมถึงห้องและ โต๊ะทำงานของน้องที่รู้จักด้วย (ตรงนี้ต้องแจ้งไว้ก่อนค่ะ เผื่อมีภาพออกมา เนื่องจากในการพาทัวร์ครั้งนั้นได้มีทีมงานมาทักทายและถ่ายรูปไว้ปกติแล้ว การเป็นบุคคลสาธารณยากมากที่จะปฏิเสธเรื่องการถ่ายรูปค่ะ ซึ่งระหว่างที่ทีมพาทัวร์ครูอ้วนและเลขา มองหน้ากันว่าเราต้องดูใช่หรือไม่
6.เมื่อทัวร์บริษัทเสร็จ ลงมาด้านล่างตรงที่มีรูปตรูอ้วนอยู่ มีคนมุงเยอะะจนไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นใครแบบไม่ตั้งตัวจริงๆค่ะ ซึ่งเลขาพยายามกันออกแล้ว ก็จะมีบางท่านที่ได้รูปไป หลังจากนั้นเราขอตัวกลับ
7.หลังจากกลับออกมาไม่ถึง 5นาที ได้มีเพื่อนโทรมาเพราะเห็นภาพ ซึ่งคิดว่าอ้วนเข้าไปสมัคร อ้วนได้แจ้งกลับว่าแค่มาคุยงานค่ะ และมีภาพจากเครือข่ายTag มากันเยอะมากค่ะ นี่คือเหตุการณ์โดยรวมในวันดังกล่าวค่ะ
8.หลังจากวันนั้น ทางที่มงานได้มีการดึงไลน์ของเลขาครูอ้วนเข้ากรุ๊ปไลน์เพื่อให้เข้าเรียนคอร์สออนไลน์ และด้วยความอยากรู้ว่าคอร์สของบริษัทดังกล่าวคืออะไร เลขาครูอ้วนจึงลองเข้าไปนั่งฟังในออนไลน์ โดยทางทีมงานออกตัวให้ว่าไม่มีค่าใช้จ่าย (ฟรี) ได้นั่งดู 10 นาที ก็ออกมาค่ะ เนื่องจากไม่ใช่งานที่เราถนัดค่ะ หลังจากนั้นได้มีทีมงานติดต่อมาอีก เพื่อจะให้ครูอ้วนได้ลงคอร์สและขอ ครูอ้วนพื่อจะดึงเข้ากรุ๊ป ถามซ้ำๆและดูกดดันจนทำให้ให้ไม่สบายใจ เลขาครูอ้วนจึงทำหน้าที่ตัดปัดปัญหา และ ตัดขาดการติดต่อไปโดยไม่มีการติดต่อต่อกันอีกค่ะ
ขออนุญาตชี้แจง และ ยืนยันในความบริสุทธิ์ อย่างจริงใจที่สุดมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ