จากที่ "ดีเจนุกนิก" ออกรายการโหนกระแส และเธอได้เล่าในมุมของเธอว่า เธอเป็นเหยื่อ ถูก อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้ติดต่อใครเลย จนมาทราบเรื่องว่าเขากำลังมีเรื่อง มีคดี จึงคิดว่าอยู่กับอ.อ๊อดไม่ได้แล้ว จึงโทรบอกให้พี่สาวมารับ แต่พี่สาวมาอาจารย์ก็ยังไม่ให้กลับ แล้วบอกว่า มีเรื่องกันอยู่จะมาทิ้งกันได้ยังไง ไม่ให้กลับ เดี๋ยวจะพานุกนิกไปพักผ่อน พักสมอง
จากนั้นเขาพาตนไปอยู่ที่รีสอร์ทย่านรังสิตก่อน 1 คืน เช้ามาเขาก็ให้ลูกน้องชื่อบลู ขับรถพาไปส่งที่รีสอร์ทที่หนองคาย ใกล้กับด่านชายแดน แต่ว่าไม่ได้พยายามจะข้ามแดนไปไหน อยู่ที่นั่น 3 วัน โดยที่ อ.อ๊อด พยายามประกบตนตลอด ตอนนั้นไม่มีมือถือ ไม่มีเครื่องมือสื่อารติดตัวสักอย่าง เพราะเขาให้ทิ้งไว้ที่บ้านหมด อ.อ๊อดจะมีมือถือที่ซื้อมาใหม่ติดตัว 1 เครื่อง แต่ไม่ให้ตนติดต่อใครเลย ถามอะไรหรือขอติดต่อใครก็ไม่ได้สักอย่าง
นุกนิกบอกว่า พยายามขอร้องให้พาตนกลับบ้าน เกลี้ยกล่อมให้เขามอบตัว จนสุดท้ายเขาพาเรากลับมา กทม. โดยแยกกันที่ฟิวเจอร์พาร์ก รังสิต เขาไปไหนไม่รู้ ส่วนตนกลับบ้านที่บางใหญ่ แล้วติดต่อ กัน จอมพลัง ให้มาช่วยเหลือทันที
ทว่าทางฝั่งมุมของ อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ได้พูดถึงดีเจนุกนิก แฟนสาว ในเชิงที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน ในบางเรื่อง เช่น เรื่องการหลบหนีออกนอกประเทศ และเรื่องการกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครพูดจริงหรือพูดเท็จอย่างไร ซึ่งในประเด็นนี้ตำรวจมีพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบางส่วนที่ทำให้เชื่อได้ว่า ดีเจนุกนิก ไม่ได้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ค่อนข้างมีอิสระ ซึ่งตรงกับคำให้การของ อ.อ๊อด
ส่วนเรื่องการใช้บัญชีของดีเจนุกนิก และเส้นทางการเงินอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนบุคคลที่ช่วยเหลือพา อ.อ๊อด หลบหนีนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุผู้ที่เกี่ยวข้องได้ แต่พบว่ามีการใช้รถ 1 คัน พา อ.อ๊อด ไปพักอยู่บริเวณชายแดน และพยายามจะพาข้ามแดนหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งทางตำรวจเตรียมจะขออำนาจศาลฝากขัง อ.อ๊อด พร้อมคัดค้านการประกันตัว