บอกเลยว่าถ้าได้ยินน่าจะเดือดเท่าๆ กับ หนุ่ม กรรชัยแน่นอน เนื่องจาก โหนกระแสวันนี้ ได้พูดคุยถึงเคส สาวซิ่งรถบีเอ็มพุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์ของ 3 แม่ลูกเสียชีวิต ซึ่งผู้แม่เป็นผู้ขับขี่ และมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 และลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โดยเหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อเวลา 18.56 น. วันที่ 27 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า น.ส.จิรันธนิน ผู้ขับรถบีเอ็ม ได้มาพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 2 ครั้ง ผลปรากฏว่าวัดได้ 29 และ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลชุมพร อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
ในรายการโหนกระแสได้มีการเชิญทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมาร่วมพูดคุยในรายการ และพยานที่บ้านอยู่ตรงกันข้ามกับจุดที่ รถบีเอ็ม ไปจอดอยู่หลังจากที่ชนกับ 3 แม่ลูกเคราะห์ร้ายดังกล่าวแล้ว ซึ่ง พยานคนดังกล่าวนอกจากจะเล่าถึงนาทีเกิดเหตุแล้ว ช่วงตอนหนึ่งที่น่าสนใจคือเธอได้เล่าตอนที่ได้ข้ามถนนเพื่อไปช่วยเหลือเบื้องต้นกับ น.ส.จิรันธนิน ผู้ขับรถบีเอ็ม
โดย พยานเล่าว่า ตอนนั้นเธอไม่ทราบว่า สาวขับบีเอ็มได้ชนกับ 3 แม่ลูกมาก่อนหน้านี้ เพียงแค่นึกว่าเธอประสบอุบัติเหตุชนขอบหรือข้างทางมา จึงได้วิ่งไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งทาง น.ส.จิรันธนิน ผู้ขับรถบีเอ็ม ได้กองไปอยู่กับพื้นตรงด้านคนขับเพื่อหาแมว และยังตะคอกเพื่อให้เธอช่วยหาอีกด้วย
ช่วงตอนหนึ่ง พยานผู้เห็นรายการเล่าว่า ได้บอกทางคุณพ่อของชีวิตที่สูญเสียว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลือเรื่องกล้องวงจรปิดบอกเธอได้ เพราะตอนนั้นที่เห็นสภาพคุณพ่อคือไม่น่าจะไหวแล้ว จากนั้นก็รอจนตำรวจมา และได้ถามว่าได้เมมโมรี่จากกล้องหน้ารถหรือยัง ซึ่งทางตำรวจยืนยันว่าได้แล้ว ทั้งนี้เธอยังบอกอีกว่า ตำรวจมากช้ามาก
ด้าน หนุ่ม กรรชัย พอได้ยินประโยคนี้ถึงกับพูดทันทีว่า "ตำรวจมาช้ามากใช่มั้ย .. เป็นแบบนี้แหละครับ"
อย่างไรก็ตาม พยานเห็นเหตุการณ์เล่าต่อไปว่า ระหว่างนาทีที่เกิดเหตุจนถึงตอนที่ตำรวจจะมาคือประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ น.ส.จิรันธนิน ผู้ขับรถบีเอ็ม ได้ไปก่อนแล้วตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแรก หลังจากได้แมวไม่ถึง 5 นาทีเขาก็ไปแล้ว