ส่งกำลังใจล้นๆ แน่นๆ ให้บ้านวงศ์เทวัญ เพราะตอนนี้ยังลุ้นให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับ วิ วิรดา นางเอกลิเกเงินล้าน น้องสาว กุ้ง สุธิราช หลังจากป่วยกะทันหันด้วยโรคไข้เลือดออก ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูมาเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ กุ้ง สุธิราช พี่ชายของ วิรดา เล่าว่า น้องสาวเป็นไข้เลือดออกสายพันธุ์แรก ซึ่งความรุนแรงถ้าเป็นในเด็กจะไม่มาก แต่ถ้าเป็นในผู้ใหญ่มันจะรุนแรงมาก และเธอไม่เคยเป็นมาก่อน
ล่าสุด กุ้ง สุธิราช ออกมาอัพเดตอาการของ วิรดา ว่าตอนนี้อาการยังทรงๆ ด้านครอบครัวได้แต่หวังปาฏิหาริย์ ซึ่งอาการล่าสุดวิรดาก็ยังเหมือนเดิม ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาล ปลายปีนี้ก็จะครบ 1 ปีเต็ม ก็เฝ้ารอปาฏิหาริย์ ยังรออยู่ ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่มีการสื่อสารอะไรออกมา ให้เราได้เห็นชัดเจนว่าดีขึ้น ก็ยังทรงๆ
"จิตใจคนในครอบครัวทุกคนก็ยังสู้นะ ยังรอคอยความหวังอยู่แหละ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่กับความเป็นจริง ในส่วนตัวของผมเอง ก็อยู่กับความเป็นจริง ก็ต้องยอมรับให้ได้ในทุกแบบ แต่ก็พยายามให้กำลังใจคนในครอบครัว ให้กำลังใจญาติพี่น้อง คุณแม่นี่ก็คือคนสำคัญที่ต้องให้กำลังใจมากๆ ซึ่งในระยะเวลาเกือบ 1 ปี น้องยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ร่างกาย หน้าตา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ว่าสมองยังไม่ทำงาน ไม่ซูบผอมลง ค่อนข้างปกติมากๆ เหมือนนอนหลับ"
ด้านอาการทางชีวิภาพนั้น กุ้ง สุทธิราช เล่าว่า คือตอนนี้คุณหมอก็ไม่ได้ให้ความหวังอะไรมาก ก็รักษาไปตามอาการ พยายามไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้มีอะไรที่มันหนักกว่านี้ ซึ่งก็อยู่แบบทรงๆ แต่ในเรื่องของสมองก็ยังคงนิ่งอยู่ ซึ่งทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ให้ความหวังอะไรขนาดนั้น ก็ยังสู้ ยังไหว้พระขอพรกันอยู่ หวังว่าปาฏิหาริย์มันจะเกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ
"ครอบครัวตั้งใจจะรักษาไปตลอด ยังคงดูแลรักษาน้องแบบเต็มที่ครับ เดี๋ยวดูว่าหลังจากนี้ ใกล้ครบประกันแล้ว อาจจะต้องย้ายอีก แต่ยังหาข้อสรุปกันอยู่ (ประกันจะหมดเมื่อไหร่?) สิ้นปีนี้ประกันยังถึงอยู่ แต่ปีหน้าน่าจะต้องเริ่มใหม่ เพราะน่าจะครบแล้ว ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ต้องสู้กันแหละ ยังไงเราก็อยากให้ดูแลน้องให้ดีที่สุด"
กุ้ง ยังบอกอีกว่า ได้คุยกับทางประกัน เขาก็ต่อให้ แต่ว่าต้องเว้นระยะประมาณ 90 วัน ในช่วง 90 นี้ เราก็ต้องดูแลกันเอง น่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ก็เตรียมไว้เท่ามี สู้กันเต็มที่ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องจิตใจมากกว่าที่สำคัญ เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จากเมื่อปีที่แล้ว จนมานี่จะชนปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังทรงๆ อยู่ ได้แต่ภาวนา ได้แต่ให้กำลังใจกันกับคนที่ไปเฝ้า
"ถามว่าถอดใจไหมเหรอครับ มันไม่ได้ถอดใจครับ อย่างน้อยเราได้เห็นน้องเราอยู่ทุกวัน ผมก็เอาตามความเป็นจริง ถ้าอะไรมันไม่ดีขึ้น มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้ามันดีขึ้น เราก็จะได้เห็นกัน เพียงแต่ว่าเราดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ก็คิดอยู่ว่าเราจะต้องดูแลกันไป ซึ่งตอนนี้ค่ารักษาก็น่าจะ 10 กว่าล้านขึ้นแล้ว แต่ประกันเขาจะอยู่ที่ 15 แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาดูแลกันเองก่อน ก็ต้องเตรียมกันแหละครับ โชคดีที่เขาก็เหมือนเดิมครับ 15 ล้านครับ
พร้อมกันนี้ กุ้ง ยังทิ้งท้ายด้วยว่า ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่มีมาให้ตลอด 1 ปีเต็มๆ ตนว่าน้องก็คงรับรู้ได้ ส่วนคนในครอบครัวเราก็รับอยู่แล้ว ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ที่ส่งมาให้ เราก็พยายามทำหน้าที่แทนน้องให้ดีที่สุด ก็ยังหวังแหละ ยังไงก็ยังหวังให้มีปาฏิหาริย์เล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อยมากที่สุด ก็คือให้อยู่ในสภาพนี้ ให้เราได้ดูแลน้อง