เศร้า ต้าเอส ไปรพ.ถึง 4 ครั้ง แต่ถูกให้กลับมากินยาทุกครั้ง สุดท้ายเสียชีวิต
ยิ่งเศร้า ต้าเอส ไปโรงพยาบาลถึง 4 ครั้ง แต่ถูกขอให้กลับมากินยาที่โรงแรมทุกครั้ง สุดท้ายอาการทรุดหนักเสียชีวิต ด้วยโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ
จากกรณีมีรายงานข่าวเศร้าวงการบันเทิงไต้หวัน เมื่อ "ต้าเอส (สวี ซีหยวน)" นักแสดงชื่อดังวัย 48 ปี ผู้เป็นที่รู้จักจากบทบาท "ซานไช่" ในซีรีส์ดัง "รักใสใส หัวใจสี่ดวง" (Meteor Garden) เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ขณะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลว่า ต้าเอสไปโรงพยาบาลถึง 4 ครั้ง แต่ขอให้ถูกกลับมากินยาที่โรงแรมทุกครั้ง กระทั่งต้าเอสอาการทรุดและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบอย่างไม่คาดคิด
โดยทางด้านเพจดังอย่าง "กิ๊ฟจังนั่งเล่า" ได้เผยอุทาหรณ์จากกรณีของ ต้าเอส เสียชีวิต ที่ประเทศญี่ปุ่น ระบุข้อความว่า
#คุยกับแอด จากเพจ ข่าวสารบันเทิงจีน อ้างอิงสื่อไต้หวัน ETtoday ว่า ต้าเอส (ซานไช่ จาก รักใสใสหัวใจสี่ดวง) ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ไป รพ. 4 ครั้ง แต่ขอให้ถูกกลับมากินยาที่โรงแรมทุกครั้ง จนกระทั่งทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด
- อ่านจากเนื้อข่าว ต้าเอสเป็นเสี่ยงสูงค่อนข้างชัดนะคะ โรค หอบหืด / โรคหัวใจ
หากถามว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นได้จริงไหม?
อันนี้วิเคราะห์จากประสบการณ์ส่วนตัวของแอดล้วน ๆ เลยนะคะ ถ้าจริงตามในเนื้อข่าว keyword คือ “กลางดึก” ค่ะ เจอเองกับตัวมาหลายครั้งหลายครา
- อยากขอทุกคนว่า มาญี่ปุ่นเวลาป่วย อย่ารอจนดึก อย่ารอจนเสาร์อาทิตย์ค่ะ
รพ. ที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ได้เปิด 24 ชม. และกลางคืนรพ. ที่เปิด ไม่ได้เปิดทุกแผนก ไม่ได้มีหมอเยอะ
-เรียกรถพยาบาล ถ้าเค้าพาไปกลางดึก แล้วไม่หนักจริง เลเวลตรีทูต ส่วนใหญ่ รพ. เค้าก็จะให้กลับมาบ้านค่ะ ยกเว้นโชคดีรพ. capacity มีพอ ได้แอดมิทกลางดึกคือ คุณโชคดีค่ะ
- ถ้าคุณกลับมาบ้าน ในวันถัดมา สิ่งที่ควรทำคือ “รีบกลับ” ไปรพ. ในเวลาราชการในวันถัดไปค่ะ “อย่ารอจนดึก” “อย่ารอจนเสาร์-อาทิตย์” ”อย่ารอจนวันหยุดนักขัตฤกษ์”
ถ้ากลางวันในเวลาราชการส่วนใหญ่รพ. ญี่ปุ่นจะไม่มีปัญหาค่ะ
(#ประสบการณ์ส่วนตัว ครั้งที่ 1: แอดโดน RA หอหิ้วปีกไปกลางดึก ตอนตี 1 อาหารเป็นพิษ อาเจียนจนหมดแรง-> หมอให้น้ำเกลือ -> นั่งตรงโถงเย็น ๆ ฮีตเตอร์ไม่ได้เปิด หนาวสุด ๆ -> หมอเดินมา ”อยากกลับบ้านเร็ว ๆ ปะ?” หนาวมาก พยักหน้า -> หมอเปิดน้ำเกลือหมุนแบบแมกซ์ -> ปวดแขนมาก -> อะน้ำเกลือหมดละ -> เชิญกลับหอ
ครั้งที่ 2: แอดโดนหามไปรพ. โตได วันเสาร์ (ไปทำงานที่มหาลัยพอดี) -> ซีกซ้ายชา อาเจียนไม่หยุด หูซ้ายดับ ->ไม่มีเตียงมารับเพราะวันเสาร์-> อ. และรุ่นพี่วิ่งไปเอารถเข็นมารับให้นั่ง-> ต่อแถว -> สแกนสมอง (สงสัยมะเร็งในสมอง) -> ผล สมองปรกติ น่าจะเป็นน้ำในหูไม่เท่ากันแบบรุนแรง -> แผนกหูคอจมูก ปิด -> เชิญกลับบ้าน กลับมาใหม่วันจันทร์ … กลับบ้านแบบเดินแทบไม่ได้ รุ่นพี่หิ้วปีกขึ้นแท็กซี่ ดีที่อยู่หอ เพื่อนคนไทยมารับ -> วันจันทร์นั่งรถไฟมา พี่คนไทยมาส่งแบบเหมือนวิ่งผลัดกับเพื่อนคนญี่ปุ่น ประคองจนถึงโรงพยาบาล -> แต่วันธรรมดารพ. โตไดคือดีและเลิศมากค่ะ
ครั้งที่ 3 รพ. ใหญ่มากในโตเกียว ก้างปลาปักคอ กำลังจะบินไปอเมริกาวันรุ่งขึ้นเลยต้องรีบมาเอาออก หมอส่องกล้องเข้าไปในจมูกและคอแบบไม่มียาชา เลือดกำเดาไหลโชก อาเจียน -> หมอเจอ -> เอาออกไม่ได้ เพราะเครื่องมือไม่พอ แผนกปิด -> ทำใจนะ by หมอ -> สุดท้ายไปถึงอเมริกา น้ำลายเป็นเลือดแล้ว -> เข้าฉุกเฉินที่รพ. อเมริกา มียาชาด้วย )
เห็น keyword “กลางดึก” ในข่าวนี้เยอะแล้วเสียใจมาก ๆ ค่ะ
คนไทยเราเองก็โดนสปอยโดยรพ. ไทยมาเยอะ เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมหน่อยก็ดีนะคะ
ที่ญี่ปุ่นเป็นแนวคนไข้ active ค่ะ -> ฉีดวัคซีน / ตรวจสุขภาพ/ รักษาสุขภาพ ใครมีโรคประจำตัวก็ต้องระวังเอง ออกไปไหนต้องแมสก์เอง ไม่รอคนอื่นใส่ค่ะ
หากป่วย
- ติดต่อประกันเดินทางให้ประกันหารพ. ที่เปิดให้
- หลายรพ. ถ้าไม่มีล่าม หมอไม่กล้ารับก็มี ประกันช่วยได้ในจุดนี้
- กรณีไม่ได้ซื้อประกันเดินทาง (ซึ่งควรซื้ออย่างยิ่ง) โทรสายด่วนตามแต่ละจังหวัดเพื่อหารพ. ที่มีหมอที่รับต่างชาติ
- ให้โรงแรมเรียกรถพยาบาลให้เมื่อจำเป็น อย่างน้อยมีคนคุยกับรถให้ค่ะ
ขอบคุณ FB: กิ๊ฟจังนั่งเล่า