เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากมายเกี่ยวกับประเด็นการต้มไข่นานเกินไปจะทำให้เป็นพิษ ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by "อาจารย์เจษฎ์" ได้ออกมาไขข้องใจ โพสต์ข้อความระบุว่า
ไข่ต้มนานๆ จนไข่แดงเริ่มดูเป็นสีเขียว ไม่ได้เป็นอันตรายนะครับ ไม่ได้ก่อมะเร็ง อย่างที่แชร์กันในคลิปติ๊กต๊อก (ตามรูปข้างล่างนี้)
จริงๆ มันเป็นแค่การเปลี่ยนสภาพของแร่ธาตุที่อยู่ในไข่เท่านั้นเอง ไม่ได้เกิดกรดซัลฟูริก (กรดกำมะถัน) และไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายครับ
เอาเนื้อหาของบทความเก่าที่เคยเขียนไว้ มารีโพสต์ให้อ่านกันนะครับ
------
(รีโพสต์ บทความเก่า)
กรณีมีการแชร์คลิปรายการทีวีภาษาจีน ที่ทำการต้มไข่ด้วยเวลาต่างกัน แล้วอันที่ต้มไปนานกว่า 10 นาทีนั้น พอผ่าออกมา พบว่าส่วนไข่แดงเริ่มมีสีเขียวหุ้มทั้งหมด
พิธีกรในรายการก็บอกว่า เป็นไข่ต้มที่อันตราย ก่อมะเร็งได้ !? ... ทำเอาคนตกใจกันใหญ่ เพราะหลายคนก็เคยเจอ เคยกินไข่แบบนี้
... อย่าตกใจครับ มันไม่ได้อันตรายแต่อย่างไร !!
สีเขียวที่เห็นขึ้นเป็นชั้นรอบไข่แดงต้มนั้น ไม่ใช่ความผิดปรกติของไข่ แต่เกิดจากการที่เราต้มไข่นานเกินไป จนทำให้ ธาตุซัลเฟอร์ (กำมะถัน) และไฮโดรเจนตามธรรมชาติในไข่ขาว ทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้น
แล้วไฮโดรเจนซัลไฟด์นี้ไปทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กตามธรรรมชาติในไข่แดง เกิดเป็นสารประกอบสีเขียวอมเทา ชื่อ เฟอรัสซัลไฟด์ (ferrous sulfide) หรืออีกชื่อคือ ไอรอนซัลไฟด์ (iron sulfide) ซึ่งไม่ใช่สารอันตราย หรือ ก่อมะเร็ง อย่างที่ว่าแต่อย่างไร
-ศูนย์ราชการฯ เตรียมใช้ "หุ่นยนต์ โรบอท" ช่วยรักษามาตรการป้องกันโควิด-19
-"หนุ่มใหญ่สายเปย์"ลั่นจากนี้ต่างคนต่างอยุ่"น้องเกตุ"คืนรถให้ตามสัญญา
-หมอยง เผยแนวทาง สำหรับผู้ที่หายป่วยโควิด ต้องฉีดวัคซีนหรือไม่
วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดสารสีเขียวนี้ คือการต้มไข่ไม่ให้นานเกินไป และให้ไปแช่น้ำเย็นทันที จะหยุดการเกิดปฏิกิริยาได้ครับ
ข้อมูล จาก ม.มินเนโซต้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews