ต้องบอกเลยว่าในช่วงที่ฝนตกชุกเช่นนี้ หลายพื้นที่อาจมีน้ำท่วมขังได้ ซึ่งการขับรถลุยน้ำท่วมควรใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะหากขับฝ่าไปยังจุดที่มีน้ำท่วมขังสูง เครื่องยนต์อาจดูดน้ำเข้าไปจนทำให้เกิดความเสียหายได้ เกิดเป็นภาระค่าซ่อมหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว แต่เราก็มีวิธีในการขับรถลุยน้ำได้ในสถานการณ์คับขัน
1. ประเมินความลึกเสียก่อน ก่อนจะเริ่มขับรถลุยน้ำ ควรประเมินความลึกของระดับน้ำด้วยสายตาเสียก่อน หากน้ำท่วมขังเสมอระดับฟุตบาท ก็คาดคะเนได้ว่าจะมีความลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่รถเก๋งจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นหากเห็นว่าน้ำท่วมมิดฟุตบาท ก็ควรหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นจะดีกว่า เว้นแต่เป็นรถยกสูงหรือรถกระบะก็อาจพอผ่านไปได้
2. ใช้ความเร็วให้ต่ำที่สุด อย่าเข้าใจผิดว่าการขับรถลุยน้ำจะต้องเร่งเครื่องสูงเพื่อป้องกันรถดับ เนื่องจากขณะเร่งรอบสูง เครื่องยนต์ก็จะดูดเอาอากาศจากท่อไอดีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพิ่มโอกาสเสียงที่น้ำจะถูกดูดเข้าเครื่องยนต์จนทำให้ก้านสูบงอหรือหักได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการเร่งรอบสูง ใช้ความเร็วช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีนี้จะช่วยให้มีโอกาสรอดได้มากกว่า
3. ควรปิดแอร์เมื่อน้ำท่วมสูง หากพบว่าน้ำท่วมสูงในระดับแตะใต้ท้องรถ ควรรีบปิดระบบปรับอากาศโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับพัดลมในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการโอเวอร์ฮีตหลังลุยน้ำได้
4. เลือกเลนให้เหมาะสม ควรเลือกใช้เลนที่มีระดับน้ำต่ำที่สุด ซึ่งโดยมากแล้วเลนที่อยู่ชิดฟุตบาทจะมีระดับน้ำลึกกว่าเลนที่อยู่ถัดออกไป ซึ่งผู้ขับขี่สามารถสลับเปลี่ยนเลนไปมาได้ตามความเหมาะสมโดยยึดความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ขอบคุณภาพจาก : ที่นี่สมุทรปราการ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews