ในอดีต มีความเชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า มีความศักดิ์สิทธิ์ หากนำไปใช้ในทางกุศลแล้วจะให้ พุทธคุณ แก่ตัวผู้สวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เป็นพระคาถาที่ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เคยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จประพาสยุโรป
โดยมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า รัชกาลที่ 5 ทรงใช้ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เสกหญ้าให้ม้าพยศกิน ปรากฏว่าม้าพยศตัวนั้นกลับเชื่องยอมให้จับแต่โดยดี ทำให้คนไทยสมัยก่อนมักสวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เสกหญ้าให้ม้า วัว ควาย เพื่อไม่ให้สัตว์พวกนั้นเข้ามาทำร้าย รวมถึงป้องกันอันตรายจากศัตรูเมื่อต้องออกเดินทางไปในที่ต่างถิ่น
ในปัจจุบัน นอกจากใช้สวด คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เพื่อให้ประสบความสำเร็จ สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว ยังช่วยเสริมด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย
คาถา “มงกุฎพระพุทธเจ้า” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย”
โดยให้สวดเสกน้ำล้างหน้า ทำให้ผู้คนพบเห็นแล้วรักใคร่ เมื่อไปเจรจาค้าขายก็ราบรื่นไร้อุปสรรค จากคาถาที่เล่าสืบต่อกันมานี้ ได้มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน นำมาถ่ายทอดต่อศิษยานุศิษย์
โดยจะต้องท่องนะโม 3 จบก่อน แล้วตามด้วยบทสวด ดังนี้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ”
คำแปล คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษ คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์ และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิ ครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
ดังนั้นระหว่างที่ว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า หากจิตมีสมาธิสูงตั้งมั่นคาถาก็ยิ่งทรงความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องอภินิหารเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ซึ่งเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
บทความนี้นำมาเผยแพร่เพื่อศึกษาเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติบุคคลคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านผู้มีพระคุณ
ขอขอบคุณ ข้อมูลเพิ่มเติมจาก : tnews