"หมอธีระวัฒน์" เผยถึง มหันตภัยร้ายของเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหวานน้ำตาล

25 มกราคม 2565

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊ซเพจ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เผยถึง มหันตภัยร้ายของเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหวานน้ำตาล

นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเพจ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ถึงเรื่อง มหันตภัยร้ายของเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหวานน้ำตาล ว่า

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ปฎิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รศ พญ ประพิมพ์พร (ฉันทวศินกุล)  ฉัตรานุกูลชัย หน่วยโภชนวิทยาเเละชีวเคมี ทางการเเพทย์ คณะเเพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี

เผยแพร่ กันยายน 2557

หมอธีระวัฒน์ เผยถึง มหันตภัยร้ายของเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหวานน้ำตาล

ณ นาทีนี้ เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า ตัวการใหญ่สำคัญ ที่เป็นปัญหาระดับโลกขณะนี้คือ น้ำอัดลม เครื่องดื่มมีน้ำตาล ทำให้เกิดโรคอ้วน การที่น้ำตาลหวานอยู่ในรูปของเหลวเป็นน้ำ ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นศูนย์ในสมองที่ ไฮโปธาลามัส (hypothalamus)ได้มากพอเพื่อให้สนองความอิ่ม จะได้หยุดกิน น้ำอัดลม น้ำหวาน อาหารแป้ง ฟาสต์ฟูด ทำให้น้ำตาลทะลักพรวดเข้าเลือดในทันทีทันใด ก่อให้เกิดการหลั่งทะลักของฮอร์โมนอินซูลินเพื่อให้ระดับน้ำตาลคงที่ จนเกิดการดื้ออินซูลิน และอ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ

คนอ้วนยังมีสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบมากในเลือดทำให้เส้นเลือดหัวใจ สมองตีบเร็วกว่าอายุ แถมส่วนมากยังไปชอบอาหารไขมัน ซึ่งเมื่อรวมกับหวาน จะทำให้กลไกกำจัดสารพิษอัลไซเมอร์ในสมองบกพร่องเกิดมีการสะสมพิษ (unbound amyloid หรือ oligomer) มากขึ้น และ แม้ว่าระดับอินซูลินจะสูงในเลือดแต่ในสมองกลับลดลง ซึ่งอินซูลินมีความสำคัญอย่างยิ่งในการคงสภาพการทำงานของสมอง คนอ้วนจะมีสมองหดฝ่อมากและเร็วกว่าคนไม่อ้วน

 

คำแนะนำสำหรับคนไทยนั้นควรกินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา เครื่องดื่มหวานๆ หรือ น้ำอัดลม 1 แก้วนั้นอาจจะสูงถึง 12 ช้อนชาต่อแก้ว ตามธรรมชาติรสหวาน หรือ น้ำตาลเป็นส่วนประกอบในวัตถุดิบในอาหารอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ ธัญพืชและถั่วต่างๆหรือแม้แต่นมนั้นมักจะมีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงไม่ควรเติมน้ำตาลเพิ่มเติมลงไปในอาหาร

ไม่กินน้ำตาลแล้วกินน้ำผึ้งแทนดีไหม น้ำผึ้งมีคุณสมบัติคล้ายน้ำเชื่อมแต่มีข้อดีกว่าตรงที่มีสารอาหารอื่นๆเป็นองค์ประกอบด้วย คือ มีโปรตีนปริมาณเล็กน้อย มีวิตามินและแร่ธาตุเป็นองค์ประกอบด้วย แต่องค์ประกอบหลัก (ประมาณ 80%) ของน้ำผึ้งก็คือน้ำตาลนั่นเอง ดังนั้นในแง่ของพลังงานที่ได้รับ หรือ ความอ้วนที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่แตกต่างกันระหว่างน้ำผึ้งกับน้ำเชื่อมทั่วๆไป รสของน้ำผึ้งจะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปเนื่องจากมีน้ำตาลฟรุคโตสเป็นองค์ประกอบอยู่ค่อนข้างมาก ฟรุคโตสหวานกว่าน้ำตาลกลูโคสประมาณ 1.3 เท่า ดังนั้นถ้าอยากใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลต้องลดการปริมาณเติมลง เพราะมันหวานกว่าน้ำตาลทั่วไป
น้ำตาลฟรุตโตสเป็นน้ำตาลที่มีอยู่ในธรรมชาติ พบได้มากในผลไม้ทั่วไป 

ฟรุคโตสอาจอยู่ในรูปน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว หรืออาจอยู่คู่กับน้ำตาลกลูโคสในรูปน้ำตาลทราย หลังจากทานฟรุคโตสโดยเฉพาะที่ได้จากการสกัด ระดับน้ำตาลในเลือดจะไม่ขึ้นสูงมากเนื่องจากมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและสามารถเข้าเซลล์ได้โดยไม่ต้องอาศัยอินสุลินฟังดูเหมือนจะดีและเหมาะที่จะใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน 

แต่แท้จริงแล้วน้ำตาลฟรุคโตสมีกลไกการเผาผลาญที่แตกต่างจากน้ำตาลกลูโคสตรงที่มันสามารถเผาผลาญได้เฉพาะที่ตับและกระตุ้นการสร้างไขมันทั้งที่ตับและในเส้นเลือดของเรา ส่งผลให้ผู้ที่บริโภคน้ำตาลฟรุคโตสมากเกินไปจะมีระดับไขมันไม่ดีชนิดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงและยังมีไขมันเกาะตับเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้การกินฟรุคโตสจะทำให้เรารู้สึกไม่อิ่มเนื่องจากมันไม่กระตุ้นให้เกิดการหลั่งอินสุลินและไม่ทำให้ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มมีระดับสูงขึ้นซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาล่าสุดเมื่อต้นปี 2556 ซึ่งพบว่าฟรุคโตสมีกลไกออกฤทธิ์ที่สมองต่างจากกลูโคส ทั้งในแง่การกระตุ้นให้อิ่มหรือหยุดกินเสียที จะน้อยกว่ากลูโคสด้วยซ้ำ แถมหวานกว่าติดใจรสชาติ และออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนความสุขทำให้อยากกินอีก เหมือนได้รางวัล มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนชัดเจนและมีภาวะดื้ออินสุลินเพิ่มขึ้น 

นอกจากนั้นการรับประทานน้ำตาลฟรุคโตสมาก เกินไปอาจทำให้เรามีระดับกรดยูริกและความดันโลหิตที่สูงเพิ่มขึ้นได้ และเป็นคำตอบว่าทำไมกินน้ำหวานรวมทั้งเครื่องดื่มหวาน ชาเขียว ชาขาวที่โฆษณาว่าไขมัน 0% และไม่มีคอเลสตอรอล แถมยังเลี่ยงว่าไม่มีน้ำตาล ซี่งจริงๆคือไม่มีกลูโคส แต่กลับมีฟรุตโตสแทนยังกลับอ้วน

ผลเสียที่เกิดขึ้นจากที่กล่าวมานั้นไม่เกิดขึ้นหากเราทานผลไม้สด ผลไม้ประมาณ 1 ส่วน หรือ ประมาณ 6-8 ชิ้นคำจะมีน้ำตาลฟรุคโตสเป็นองค์ประกอบประมาณ 2 ช้อนชา แต่ผลไม้สดมีใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูด ซึมน้ำตาล และช่วยชะลอการเกิดภาวะดื้ออินสุลินได้อีกด้วย และกากใยเป็นตัวป้องกันการสกัดสารพิษจากอาหาร เช่น จากไข่แดง เนื้อแดง ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ อัมพฤกษ์และสมองเสื่อม

การที่เราจะรักษาชีวิต ง่ายที่สุด เลิกน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้คั้นแยกกาก ชาเขียว ขาว นมรสหวาน ทานอาหารเพื่อสุขภาพก็คงต้องทานอาหารที่มาจากธรรมชาติจริงๆ ลดการปรุงแต่ง และเติมสารสกัดให้ความหวานให้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะปรับสมดุลให้มีความสุขทั้งการได้ทานอาหารที่อร่อยและมีสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน

หมอธีระวัฒน์ เผยถึง มหันตภัยร้ายของเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหวานน้ำตาล