Honda คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย

27 มกราคม 2565

Honda คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 (มกราคม - ธันวาคม 2564) โดยมียอดสะสมอยู่ที่ 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.9% ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการ 229 แห่งทั่วประเทศ

Honda คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ต่อเนื่องอีกสมัยต่อจากปี 2563  โดยวันที่ 24 ม.ค.65 ได้ทำการประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ซึ่งทาง Honda สามารถครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ในประเทศไทย (มกราคม - ธันวาคม 2564) โดยมียอดสะสมอยู่ที่ 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.9% ภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการ 229 แห่งทั่วประเทศและครองอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี 

Honda คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “ฮอนด้าขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ ฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับการทำงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดคล้องและทันกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานของฮอนด้า ผู้จำหน่าย และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนฮอนด้า ส่งผลให้เราได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.9% ซึ่งในปี 2565 คาดว่าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น ฮอนด้าก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ต่อไป”

Honda คว้าอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย

นายโนริยุกิ ทาคาคุระ  ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

 

 

โดยฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่

1. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดาน (B and B-Eco Sedan segments) ยอดจำหน่ายสะสม 23,490 คัน คิดเป็น 28.2%

ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ยอดจำหน่ายสะสม 21,221 คัน

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ยอดจำหน่ายสะสม 2,269 คัน

2. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดานและแฮทช์แบ็ก (B and B-Eco Sedan and Hatchback segments) ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน คิดเป็น 29.8%

ฮอนด้า ซิตี้ ซีรีส์ ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน

3. กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ (C-segment) ยอดจำหน่ายสะสม 16,092 คัน คิดเป็น 65.9%

ฮอนด้า ซีวิค ยังครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายสะสม 14,755 คัน

ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยอดจำหน่ายสะสม 1,337 คัน

4. กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV segment) ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน คิดเป็น 45.7%

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน

สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 ฮอนด้าจะยังคงเดินหน้าสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมคุณภาพที่ล้ำสมัยที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัย

โดยมุ่งไปสู่สังคมปลอดมลพิษและสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ ตามเป้าหมายปี 2593 รวมทั้งยกระดับการบริการหลังการขาย ที่เพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจในการใช้บริการแบบครบวงจรภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 229 แห่งทั่วประเทศ

พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ อีกทั้งแพ็กเกจบริการต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้า

 

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.autodeft.com/prnews/honda-ranks-number-1-in-passenger-car-2021

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.9carthai.com/honda-pr-3/