วันวิสาขบูชา 2565 วันนี้ Thainews Online มี วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะสวดมนต์ก่อนนอน หรือ วิธีสวดมนต์ที่ถูกต้องก่อนนอน หากใครชอบ สวดมนต์วันพระ เราก็มี วิธีสวดมนต์ไหว้พระ เป็น วิธีสวดมนต์ตอนเช้า และ วิธีสวดมนต์ตอนเย็น เรามีคำแนะนำที่ดีมาฝาก หากทำได้ทุกอย่างล้วนทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้ค่ะ
9 วิธีสวดมนต์ สวดแล้ว ชีวิตดีขึ้นมาก
1. ก่อนที่คุณจะสวดมนต์ให้เลือกเวลาและสถานที่ ต้องมีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด เช่น ห้องนอนของตัวเองในเวลาก่อนนอน, ห้องนอนของตัวเองในเวลาตื่นนอน ไม่จำเป็นต้องไปถึงวัดก็ได้ค่ะ
“เพราะการทำดี ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องเลือก ไม่ต้องรอค่ะ”
2. ขจัดความคิดและจิตใจให้ปลอดโปร่งที่สุด หากอะไรที่ทำให้คิดมาก รู้สึกไม่ดี รู้สึกแย่ โกรธเคือง ให้โยนทิ้งออกไปก่อน ถ้ายังไม่พร้อมจะสวดมนต์จริง ๆ ก็อย่าฝืนค่ะ
“เพราะการสวดมนต์เพื่อหวังที่จะลบความรู้สึกแย่ๆ ในใจ ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยค่ะ”
3. ความยาวของคาถาไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะดีขึ้นจริงๆ ที่สำคัญคือ คาถาที่เชื่อมสมาธิให้กับตัวของเราได้ 3-5 นาทีเป็นอย่างต่ำ เช่น สวดอะระหังสัมมาฯ+คาถาชินบัญชร, สวดอะระหังสัมมาฯ+อิติปิโสฯ+พาหุงฯ+ชินบัญชร สุดแท้แต่ที่จะเลือกมาสวดกันค่ะ
“เพราะคาถาทุกบทล้วนมีความหมายที่ดีค่ะ”
4. ระหว่างสวดมนต์ ห้ามคิดว่าจะต้องได้ลาภยศ หรืออะไรก็ตาม ต่อให้คาถานั้นมีความหมายถึงลาภยศสรรเสริญอยู่จริง เพราะนั่นทำให้เราหมกมุ่นยึดติดกับกิเลส สิ่งที่ทำต้องทำเพื่อสมาธิ และจิต ให้ว่างเปล่า บริสุทธิ์ พร้อมแนวคิดอะไรใหม่ ๆ ดี ๆ เพิ่มขึ้นมาได้อีกด้วยค่ะ
“เพราะคิดดี ทำดี เป็นรากฐานก็การได้รับสิ่งดีๆ ค่ะ”
5. ท่าสวดมนต์ต้องไม่เกร็ง ควรอยู่ในท่าที่สบาย ขัดสมาธิก็ได้ พับเพียบก็ได้ แต่ก็ให้เป็นท่าที่สามารถอยู่นิ่งได้นาน ไม่ปวดทรมาน ไม่เหน็บชา จนต้องขยุกขยิกบ่อย ๆ จะทำให้เสียสมาธิค่ะ
“เพราะการสวดมนต์ ต้องใช้ความสงบ จิตต้องนิ่งด้วยค่ะ”
6. เคล็ดลับการนั่งสวดมนต์ (ไปจนถึงนั่งสมาธิ) คือ ควรนั่งให้หลังตรง ไม่ค่อมตัว ไม่แอ่นตัว เพื่อเปิดทางเดินหายใจให้โล่งพร้อมรับลมหายใจที่ไหลเวียนได้สะดวก ผลพลอยได้จากการนั่งหลังตรง ไม่เพียงแต่สมาธิที่ดี แต่ยังได้บุคลิกภาพที่สง่างามอีกด้วยค่ะ
“เพราะการสวดมนต์ ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ จึงส่งผลให้ชีวิตดี”
7. ในขณะที่สวดมนต์จะเปล่งออกเสียง ขอให้ปากได้ขยับตามบทสวดแบบชัดถ้อยชัดคำ อย่าบ่นงึมงำไม่ได้ศัพท์ เพื่อให้รู้ตัวว่ากำลังสวดมนต์อยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันนี้ จิตไม่ได้ล่องลอยไปไหนค่ะ
“ในทางความเชื่อ การสวดให้ชัดถ้อยชัดคำ ก็เพื่อให้พระท่านรับรู้ว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไร ท่านจะได้ประทานพรได้ถูกค่ะ”
8. สวดมนต์แล้วอย่าลืมนั่งสมาธิเพื่อภาวนา แผ่เมตตาให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย และสิ่งที่มองไม่เห็น ใครหรืออะไรก็ตามที่มีผลต่อชีวิตเรา ทั้งในด้านดีและด้านร้าย ทั้งในด้านที่เป็นมิตรและเป็นศัตรู
“ขอให้พยายามนึกเรื่อย ๆ กล่าวขอบคุณ, ขอโทษ และให้อภัย อโหสิกรรมพวกเขาในขณะที่หลับตาด้วยค่ะ”
9. หลังจากสวดมนต์จบแล้ว พยายามดัดนิสัยไม่ให้ตัวเองผิดศีล 5 ค่ะ เลือกปฏิบัติตามแต่คุณจะสะดวก อาจจะไม่ทำทุกวัน แต่ขอให้สม่ำเสมอจนเป็นนิสัย
“สุขภาพกาย และสุขภาพจิตดีขึ้นผลตอบแทนที่ดีจะเกิดแก่ตัวท่านเองค่ะ”
นี่เป็นเพียงแนวทาง คำแนะนำ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเข้าวัดก็ได้ ถ้าใจมีจิตเมตตา คิดดี ทำดี และตั้งใจทำความดี ก็สามารถทำได้เลยค่ะ ทำสิ่งดีไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน นั้นยิ่งจะส่งผลให้กับตัวคุณเองไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แต่ที่แน่ๆ ชีวิตคุณจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ