TOYOTA Gazoo Racing team Thailand ได้สร้างประวัติศาสตร์! สามารถ คว้าแชมป์การแข่งขันมาราธอนทางเรียบ 24 ชั่วโมงสุดโหด “ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring” ความเร็ว Best time 10.06.794 นาที รวม 119 รอบ ด้วยระยะทางรวมกว่า 3,045 กม. เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศ เยอรมนี
TOYOTA Gazoo Racing team Thailand 24hr. Nurburgring ทีมไทยแลนด์ สู้เต็มที่ด้วยศักดิ์ศรีแชมป์โลก 2 ปีซ้อน ลงสนามในรุ่น Super Production 3 (SP3) โดยใช้รถ Toyota Corolla Altis GR Sport จำนวน 2 คัน โดยรถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ และรถหมายเลข 120 ขับโดย เฉิน เจี้ยน หงษ์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ นาโอกิ คาวามูระ ลงสนามรอบควอลิฟายด์ในเรซ 1 รถหมายเลข 120 เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยจากรถคันอื่นแต่ก็สามารถแก้ไขและกลับมาลงควอลิฟายด์ต่อในเรซ 2-3 ด้านรถหมายเลข 119 ก็ทำลายสถิติ Best Laps ในควอลิฟายด์เรซ 2 ทำเวลาได้ดี 9:53.005 นาที/รอบ ทำให้หลังจบหลังจบควอลิฟายด์ทั้ง 3 เรซ รถหมายเลข 119 ออกสตาร์ทในลำดับที่ 1 และรถหมายเลข 120 ออกสตาร์ทลำดับ 3
จากการควอลิฟายด์ รถหมายเลข 119 อยู่ในอันดับที่ 2 และหมายเลข 120 อยู่ในอันดับที่ 4 ก่อนเข้าสู่ช่วงแข่งขันบนเส้นทางสุดโหดที่มีระยะทางต่อรอบกว่า 25 กม. 73 โค้งอันตรายที่คดเคี้ยวไปตามหุบเขา และหมู่บ้าน กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แค่ชั่วโมงแรกของการแข่งขันฝนก็ตกลงมาไม่ขาดสาย รถหลายคันเกิดอุบัติเหตุ แต่การแข่งขันยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น และยากลำบาก
เข้าสู่ต้นชั่วโมงที่ 7 ของการแข่งขันผู้จัดตัดสินใจประกาศธงแดง ให้ยุติการแข่งขันชั่วคราว เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำให้ผิวแทร็กเปียกลื่น และมีหมอกที่ลงหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ เป็นอุปสรรคต่อทัศนวิสัยในการขับ ทำให้ต้องหยุดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของนักแข่งทุกคน
หลังจากที่ไฟสตาร์ทดับลงรถทุกคันพุ่งเข้าสู่สนามแข่ง ทำความเร็วไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยวพาดผ่านไปตามหุบเขา ก่อนกลับมาสปีดใส่ความเร็วกันเต็มที่ภายในแทร็กของสนาม ด้วยระยะทางรวมต่อรอบ 25.378 กม. ผ่าน 73 โค้งอันตราย ท่ามกลางสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งฟ้าใสในรอบหลายปีทำให้ผิวแทร็กแห้งสนิทการแข่งขันดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไป 14 ชม.จากช่วงบ่ายสู่กลางคืนและข้ามสู่เช้าของอีกวันรถหมายเลข 119 ยังอยู่ในตำแหน่งผู้นำอันดับที่ 1 และรถหมายเลข 120 แซงขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 2 ของรุ่นได้ เข้าสู่ช่วง 3 ชม.สุดท้ายของการแข่งขันเริ่มมีฝนตกปรอยในบางส่วนของสนามทำให้ผิวแทร็กเริ่มเปียกลื่น แต่ทุกคันต้องทำให้ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์กดดัน ความอ่อนล้า แต่รถต้องอึด คนต้องสุด ก่อนที่รถหมายเลข 120 จะกลับขึ้นมาในตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ได้ จบการแข่งขัน 24 ชม.ก็ไม่ทำให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยผิดหวังเมื่อรถทั้ง 2 คัน สปีดเต็มที่เข้าสู่ธงหมากรุกจบการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ โดยรถหมายเลข 120 คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในรุ่น SP3 และ 80 Overall รวม 119 รอบสนาม Best Time 10:06.794 รถหมายเลข 119 คว้าอันดับ 2 Overall 83 รวม 116 รอบสนาม Best Time 10:07.451 จากรถที่เข้าร่วมแข่งในปีนี้ 135 คัน สร้างประวัติศาสตร์แชมป์โลก 3 ปีซ้อน ในรุ่น SP3 ด้วยการวิ่งรวม 3,045 กม. พร้อมนำถ้วยแชมป์โลกปีที่ 3 ได้สำเร็จ
คุณอาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด Toyota Gazoo Racing Team Thailand เผยความรู้สึกว่า “พวกเราทุกคนยินดีและมีความสุขมากที่ทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ตามที่ตั้งใจ ‘นูร์เบอร์กริง’ เป็นสนามที่ขับยากและมีสภาพอากาศแปรปรวน เราขับต่อเนื่องและทำสปีดได้ดีเพราะอากาศปลอดโปร่ง แต่พอเข้าช่วง 3 ชม.สุดท้ายกลับมีฝนปรอยลงมาทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม และด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาก็ทำให้พวกเรานำรถเข้าเส้นชัยคว้าถ้วยแชมป์กลับประเทศได้อย่างสมบูรณ์แบบสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้อีกครั้ง พวกเราจะไม่หยุดพัฒนาในทุกสนามทั้งในฤดูกาลนี้และยังเตรียมพัฒนารถสำหรับการแข่งขันฤดูกาลต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก:www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand
ขอบคุณที่มาจาก:https://www.autospinn.com/2022/05/toyota-gazoo-racing-team-thailand-24hr-nurburgring-89919
ขอบคุณที่มาจาก:https://www.grandprix.co.th/toyota-gazooracing-teamthailand-24hracenurburgring-2021/
ติดตามรายการ Car Freedom ได้ที่: