สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น

04 มิถุนายน 2565

สับปะรด พันธุ์ เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนผลเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น แปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋องส่งออกได้กำไร

เกษตรยั่งยืนในวันนี้ ทีมงานไทยนิวส์จะพาทุกท่านมาพูดถึงเรื่องการปลูกสับปะรด พันธุ์ เพชรบุรี 2 ซึ่งเป็นพันธุ์แนะนำให้เกษตรกรนำไปปลูกส่งขาย หรือ แปรรูป ได้ราคาดี ซึ่งลักษณะเด่นของสับปะรด พันธุ์ เพชรบุรี 2 มีอยู่ด้วยกัน 5 ข้อ ดังนี้

1. อัตราส่วนน้ำหนักเนื้อ : น้ำหนักผลเฉลี่ย 0.29 สูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวียร้อยละ 26 แกนเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางแกน 2.17 – 2.87 เซนติเมตร 
เล็กกว่าพันธุ์ปัตตาเวียร้อยละ 13.3 – 15.3

2. ผลทรงกระบอก Canning ratio 0.93 – 0.99 เหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง

3. ความหวานเฉลี่ย 13.9 – 17.9 องศาบริกซ์ หวานกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย 14.4 องศาบริกซ์

4. ตาตื้น ความลึกตาเฉลี่ย 0.73 – 0.81 เซนติเมตร

5. ผลผลิตเทียบเท่ากับพันธุ์ปัตตาเวียซึ่งเป็นพันธุ์เปรียบเทียบ

พื้นที่แนะนำให้เกษตรกรปลูกลักษณะทั่วไป ส่วนข้อควรระวังหรือข้อจำกัดนั้น ควรมีการบริหารจัดการศัตรูโรคเหี่ยวสับปะรด แช่หน่อพันธุ์ด้วยสารป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งพาหะนำโรคเหี่ยวสับปะรดก่อนปลูก และใช้หน่อจากแหล่งที่ไม่พบโรคเหี่ยวสับปะรดระบาด

ทั้งนี้ทางกรมวิชาการเกษตร  ส่ง “เพชรบุรี 2” สับปะรดพันธุ์ใหม่ลักษณะเด่นโดนใจโรงงานแปรรูป  ผลทรงกระบอก  แกนผลเล็ก  ตาตื้น  ช่วยลดการสูญเสียเนื้อเมื่อเข้าเครื่องปอก  คุ้มแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง  แถมค่าความหวานเฉลี่ยชนะเลิศพันธุ์ดั้งเดิมปัตตาเวีย

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น

นางสาวเสริมสุข   สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  สับปะรดเป็นผลไม้ที่สร้างมูลค่าการส่งออกให้กับประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท   ซึ่งการวิจัยและพัฒนาที่ผ่านมาส่วนมากเป็นไปในด้านการเขตกรรมและการอารักขาพืช   ส่วนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์หรือสายพันธุ์ยังไม่สามารถสร้างพันธุ์หรือสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้  ทำให้พันธุ์ที่ปลูกยังคงเป็นพันธุ์เดิม ปริมาณผลผลิตต่อไร่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.11 ตัน/ไร่  ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งการใช้พันธุ์เดิมปลูกติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เกิดการกลายลักษณะไม่พึงประสงค์มากขึ้น เช่น การเกิดหนามตลอดทั้งใบ ผลไม่เป็นทรงกระบอก สีเนื้อไม่สม่ำเสมอ  ผลขนาดเล็กลง  และอ่อนแอต่อโรคเหี่ยวสับปะรด

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น  

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น
 

การคัดเลือกสายต้นเป็นแนวทางการปรับปรุงพันธุ์วิธีการหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาสั้น   ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี  กรมวิชาการเกษตร  จึงได้ดำเนินการคัดเลือกสายต้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้สับปะรดพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตไม่น้อยกว่าพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า และมีลักษณะเหมาะสมสำหรับการแปรรูปตรงตามความต้องการของโรงงาน  ได้แก่ ผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอก  ตาตื้น แกนผลเล็ก  เพื่อให้ได้ปริมาณเนื้อสำหรับแปรรูปสูง  และมีอัตราการสูญเสียเนื้อต่ำ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น

 

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี  ได้เริ่มดำเนินการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์เมื่อปี  2534   โดยการประเมินและคัดเลือกพันธุ์  การเปรียบเทียบพันธุ์   และการทดสอบพันธุ์ในแหล่งผลิต  ตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์  จนประสบความสำเร็จได้สับปะรดพันธุ์ใหม่ผ่านการพิจารณาเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรในปี 2562 ใช้ชื่อพันธุ์ว่า “สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2” โดยมีลักษณะเด่น คือ มีอัตราส่วนน้ำหนักเนื้อ : น้ำหนักผลเฉลี่ย 0.29 ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย  แกนผลเล็ก ตาตื้น  ความลึกตาเฉลี่ย 0.73 – 0.81 ซม.  มีผลทรงกระบอกซึ่งเหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง  ค่าความหวานเฉลี่ย 13.9 – 17.9 องศา บริกซ์ซึ่งมากกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น


           
สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 มีผลทรงกระบอกเหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง  มีความหวานมากกว่าพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรนิยมปลูกในปัจจุบัน  ที่สำคัญมีตาตื้นเมื่อเข้าเครื่องปอกแล้วจึงไม่สูญเสียเนื้อมาก  จึงเหมาะสำหรับการนำไปแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง  ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเป็นที่ต้องการของโรงงานอุตสาหกรรม   ปัจจุบันศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี มีหน่อพันธุ์ประมาณ 5,000 หน่อ ซึ่งสามารถปลูกขยายได้พื้นที่ 0.5 ไร่  ”

 

สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2 ปลูกง่าย ขายได้ราคา แกนเล็ก ตาตื้น น้ำหนักเนื้อแน่น