วันนี้รายการ Petพาเพลิน จะพาไปทำความรู้จักกับ ความเครียดของน้องแมว และวีธีการป้องกัน กับ หมอตาล สพ.ญ.กุลวรางค์ จำเนียรไวย์ สัตวแพทย์ ประจำโรงพยาบาลสัตว์หมาแมวเลิฟลี่
ความเครียดในน้องแมวส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ สิ่งแวดล้อม หรือว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่ทำให้แมวรู้สึกกังวล และไม่ปลอดภัย อย่างเช่น การมีแขกมาที่บ้านหรือ รับสัตว์เลี้ยงใหม่เข้ามาในบ้าน มีกลิ่นที่เปลี่ยนไป เสียงที่ดัง ก่อสร้าง ฟ้าร้อง เป็นต้น
ซึ่งพวกนี้จะทำให้เกิดความเครียดในแมวได้ อาการเครียด ที่เรามักพบกับน้องเหมียวคือ ปัสสาวะไม่เป็นที่ ปัสสาวะนอกกระบะทราย ท้องเสียท้องผูก มีปัญหาพวกทางเดินอาหาร ทำความสะอาดเลียขนตัวเองมากกว่าปกติ ข่วนหรือว่าฝนเล็บมากกว่าปกติ แยกตัวออกไปอยู่ตัวเดียว หรือว่าน้องจะส่งเสียงร้องจนผิดสังเกตกินอาหารน้อยลง นอนมากขึ้น
น้องแมวบางตัวที่เครียดมากๆ จะแสดงความดุร้าย เกรี้ยวกราดกับสัตว์หรือว่าคนอื่นได้
ความเครียดส่งผลอย่างไรต่อน้องแมว....
ความเครียดจะส่งผลเสียต่อสุขภาพน้องแมว เพราะความเครียดสะสม จะทำให้เกิดการกดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทำให้น้องแมวป่วยง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่ดีนั่นเอง
การป้องกัน
1. หลีกเลียงการพาไปนอกบ้าน เพราะเป็นสถานที่ที่น้องแมวจะรู้สึกถึงความปลอดภัยมาก
2.โดยธรรมชาติ แมวชอบล่า อาจหาของเล่น หรือว่าเกม เป็นกิจกรรมที่ทำให้น้องแมวได้วิ่งไล่จับก็จะทำให้น้องแมวไม่เบื่อ แล้วก็ไม่เกิดความเครียด
3.ในกรณีเลี้ยงแมวหลายตัว เราอาจจะต้องเพิ่มกระบะทราย หรือว่า ชามอาหารเพื่อลด การแข่งขันหรือว่าแย่งกัน
4.แมวส่วนใหญ่ชอบพื้นที่ในแนวตั้ง ดังนั้นพวกคอนโดแมวจะเป็นที่ที่น้องแมวรู้สึกปลอดภัย เพราะเขาสามารถขึ้นไปเฝ้าดูกิจกรรมภายในบ้านได้
5.น้ำพุเป็นอีก 1 สิ่ง ที่สามารถทำให้น้องแมวหายเบื่อได้ และก็เป็นการกระตุ้น การกินน้ำของน้องแมวได้ด้วย
นอกจากนี้ ก็จะมีอีกหลากหลายวิธี อย่างเช่น การใช้ฟีโรโมนแมว ที่ทำให้น้องเกิดการผ่อนคลายขึ้น
ดังนั้น ความเครียดของน้องแมว เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพราะจะส่งผลเสียกับตัวน้องเหมียวเยอะมาก ข้อมูลด้านบนเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากแก้ปัญหาเบื้องต้น ควรพาเจ้าเหมียวไปหาหมอ ตรวจร่างกาย จะเป็นทางที่ดีที่สุด
ขอบคุณ หมอตาล สพ.ญ.กุลวรางค์ จำเนียรไวย์ จาก รพ.สัตว์หมาแมวเลิฟลี่