บาตรพระแตก คุณเคยได้ยิน ความเชื่อ อาถรรพ์ เกี่ยวกับเรื่อง บาตรแตก ไหมค่ะ คำว่า บาตร ในที่นี้ หมายถึง บาตรพระ ที่พระใช้ใส่บาตรข้าวนี่แหละค่ะ เคยมีคนโบราณเล่าให้ฟังว่า หากบ้านไหนมีบาตรพระแตก เศษบาตรพระแตกอยู่บริเวณนั้นนั่นหมายความว่าบ้านคุณโดนไสยศาสตร์ มนต์ดำ เข้าแล้ว
บาตรแตก ที่สุดแห่งคณไสย
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า บาตร หรือ บาตรพระ เป็นสิ่งของที่พระภิกษุและสามเณรใช้ในการออกบิณฑบาต โดยพระพุทธองค์ ทรงบัญญัตไว้ว่า บาตร มี 2 ชนิด
1. บาตรดินเผา
2. บาตรเหล็กรมดำ
โดยขนาดของบาตรที่เรารู้จักกันก็คือ มีขนาด 7-11 นิ้ว และพระพุทธองค์ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุใช้บาตรที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น ห้ามทำบาตรด้วยวัสดุที่เป็นเงิน และ ห้ามทำบาตรด้วยวัสดุที่เป็นทอง รวมไปถึง ทองเหลือง และ ทองแดง ด้วย
ในปัจจุบัน เรื่องของบาตรพระนั้น ตามวัดส่วนใหญ่อนุโลมให้ใช้บาตรที่ทำจากสแตนเลส เพราะว่าบาตรที่ทำจากสแตนเลสนั้นทำความสะอาดง่ายกว่า การดูแลรักษาก็ง่ายกว่า ส่วนตัวฝาบาตรนั้นในสมัยก่อนก็ทำจากไม้ ปัจจุบันนี้ก็เปลี่ยนให้ใช้เป็นฝาสแตนเลสเช่นเดียวกัน ยกเว้นเพียงภาคอีสานบางวัดเท่านั้นที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมแบบดั่งเดิม
ความเชื่อเกี่ยวกับ บาตรแตก หรือ บาตรพระแตก
ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อของทางภาคกลางที่ว่า พระสงฆ์หนึ่งรูป จะได้รับการอบรม และถ่ายทอดความรู้จากพระอุปัชฌาย์ว่า ให้ดูแลรักษาบาตรของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะพระสงฆ์หนึ่งรูปจะมีบาตรได้เพียง 1 ใบเท่านั้น
ในสมัยโบราณ บาตร ทำจากดินเผา หรือ ทำจากไม้ หากบาตรเกิดรูรั่ว พระสงฆ์จะต้องชันยาเพื่ออุดรูรั่วนั้นและใช้บาตรนั้นต่อไป จนกว่าจะมีคน บาตรใหม่มาถวาย ในกรณีที่มีการแตกหรือบาตรชำรุดพระสงฆ์เท่านั้นที่จะต้องเป็นผู้เก็บรักษา และจะต้องเก็บไว้ภายในวัดเท่านั้นอย่าให้ไปตกอยู่ในมือของใคร
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเก็บรักษาให้พ้นจากมือของคนที่จิตใจไม่ดีนั้น เพราะเคยมีเรื่องเล่าที่ว่า เพียงแค่นำ บาตรพระแตก นั้นไปทิ้งไว้ตามบ้านเรือน ตามสวน ตามไร่นา หรือนำไปโยนใส่ไว้ใต้ถุนบ้านใคร นั่นก็เป็นลางบอกเหตุได้ว่า บ้านนั้นจะเกิดความเดือนร้อน จะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง เกิดความแตกแยก ต่างๆ นาๆ นี่คงเป็นคำบอกเล่าและเป็นความเชื่อตั้งแต่นั้นมา
วิธีแก้ไขคุณไสย
โดยทั่วไป หากบาตรแตก สามารถพบเห็นได้ด้วยตาเปล่า การจะนำ บาตรแตก นั้น ออกจากสถานที่ จะต้องใช้พระสงฆ์ที่สามารถกำกับคาถา ลงอาคมได้ มาเป็นผู้ทำ พิธีถอนบาตรแตก นั้น ออกไป และทำบุญเสริมให้กับเจ้าของบ้านเพื่อเพิ่มความสบายใจในกรณีที่ไม่สามารถเห็น บาตรแตก ได้ แต่ทราบจากผู้ที่สามารถสัมผัสทางใน ที่เจ้าของบ้านนั้นศรัทธา ก็ต้องทำพิธีถอนเพื่อแก้ไขเช่นเดียวกัน
แต่ความเชื่อที่ว่ามี่ บาตรพระแตก ในบ้าน โดยเราไม่สามารถมองเห็น ควรใช้วิจารณญาณว่าได้รับทราบจากผู้ที่เราเชื่อถือได้จริงๆ หรือไม่ เนื่องจากบางครั้ง ผู้ทำนายทายทัก อาจใช้ความคาดเดาเพียงว่าบ้านนี้ไม่มีความสุข ได้รับความเดือดร้อน พี่น้องทะเลาะเบาะแว้งกัน จนหาความสุขไม่ได้ จึงนำไปโยงเข้ากับเรื่อง บาตรแตก ซึ่งอาจทำให้ผู้รับฟังเกิดความวิตก ไม่สบายใจ จนหาความสุขไม่ได้เช่นกัน วิธีการแก้ไขก็อาจใช้วิธีเดียวกันกับกรณีไม่เห็น “บาตรแตก” แต่หากไม่ได้เชื่อถืออย่างจริงจังและได้รับการทำนายทายทักในเรื่องดังกล่าว อย่างน้อยที่สุดผู้ถูกทัก ก็ควรทำบุญ เสริมบารมี ให้กับตัวเองเท่านั้นก็พอแล้ว
การแก้ทางวิชาบาตรแตกนั้นทำได้ 4 วิธีดังนี้
1. ใช้เมล็ดข้าวและดินที่ประกอบพิธีแรกนาขวัญ ปลูกและโปรยรอบบ้าน พร้อมบริกรรมคาถาว่า "พุทโธทำให้หลุด ธัมโมทำให้ดับ สังโฆทำให้สูญ เสนียดจัญไร จงหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุ ทโมนะ"
2. ใช้ตะปูสังฆวานรหรือตะปูธรรมดานำไปฝากไว้ในโบสถ์ 1 พรรษา แน้นวัดกลางที่มีการบวชและลงปาฏิโมข์ประจำ แล้วนำตะปูมาตอกที่เสาบ้าน หน้าต่าง ประตู พร้อมบริกรรมคาถาว่า "พุทโธทำให้ หลุด ธัมโมทำให้ดับ สังโฆทำให้สูญ เสนียดจัญไร จงหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ"
3. หาบาตรแตกที่ทำใส่เราแล้วห่อด้วยจีวรขาดนำไปทิ้งแม่น้ำกล่าวคำต่อพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พร้อมบริกรรมคาถาว่า "พุทโธทำให้หลุด ธัมโมทำให้ดับ สังโฆทำให้สูญ เสนียดจัญไร จงหายไปด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ"
4. วิธีที่หนักที่สุดแต่ไม่แนะนำให้ใช้คือการใช้ประจำเดือนแรกของสาวพรหมจรรย์ ล้างอาถรรพ์บาตรแตกที่ลงอาคมไว้ (วิธีนี้ข้าพเจ้าจะไม่ขอบอกลำดับการทำพิธี เพียงแต่จะลงข้อมูลให้ครบเท่านั้น)
ความเชื่อเรื่องบาตรพระแตก ก็เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ยุคสมัยเปลี่ยนไปความเชื่อต่างๆ ก็เลือนลางหายไป นี่เป็นเพียงข้อมูลจากคำบอกเล่าเท่านั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะค่ะ
ข้อมูลจากเพจ : อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง / TNEWS