อย. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฝ้าระวังการนำเข้าสับปะรดสีชมพู หลังพบมีการโพสต์ขายทางออนไลน์ เนื่องจากการนำเข้าต้องมีใบอนุญาต และประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ (GMO) ซึ่งไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด พร้อมทั้งเตือนประชาชนไม่ให้นำเข้าพืชดังกล่าว รวมถึงสนับสนุนในการซื้อขาย หากผู้ใดครอบครองจะผิดตามกฎหมาย
เนื่องจาก"สับปะรดสีชมพู"ดังกล่าวใช้ชื่อการค้าว่า Pinkglow® pineapple ของบริษัท DEL MONTE ถูกนำไปปลูกในแปลงที่ได้รับการคัดเลือกในภาคกลางตอนใต้ของประเทศคอสตาริกา โดยพัฒนาพันธุ์สับปะรดให้มีเนื้อสีชมพูด้วยกระบวนการดัดแปรพันธุกรรม (GMO)
ทั้งนี้ ผู้ลักลอบนำเข้าพืช GMO จะมีโทษทางกฎหมายตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. 2507 ที่ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ กรณีกรมวิชาการเกษตรตรวจพบว่ามีการลักลอบซื้อ-ขาย หรือปลูก สามารถยึด อายัด และทำลายได้ทันที โดยผู้ซื้อ-ผู้ขายเรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้
สับปะรด ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากไทยเป็นผู้ส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์ในลำดับต้นๆ ของโลก
สายพันธุ์สับปะรดที่เกษตรกรนิยมปลูก แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.เพื่อแปรรูป จะเป็นสับปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวียเพราะมีเนื้อแน่น รสหวานปานกลางหรือหวานจัด ซึ่งสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ
2.เพื่อรับประทานผลสด ซึ่งจะมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้น ขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกดังต่อไปนี้
2.1 พื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่ตำบลนางแล อำเภอแม่จัน จะเป็นแหล่งปลูกสับปะรด พันธุ์นางแล
2.2 ภาคตะวันออก นิยมปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง อินทรชิดขาว-แดง โดยเฉพาะจังหวัดตราดเป็นแหล่งที่เหมาะสมในการปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง ส่วนอินทรชิดขาว-แดง นิยมปลูกที่เขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
2.3 ภาคกลาง อย่างจังหวัดเพชรบุรีนิยมปลูกสับปะรดพันธุ์ฉีกตาหรือสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี
2.4 ภาคใต้ นิยมปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ต และพันธุ์สวี ซึ่งจังหวัดชุมพร เป็นแหล่งปลูกที่เหมาะสมสำหรับพันธุ์สวี
การปลูกสับปะรด ดินที่เหมาะสมในการปลูก ควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย จะทำให้สับปะรดสามารถเจริญเติบโตได้ดีโดยเฉพราะดินปนลูกรัง และดินทรายชายทะเล รวมทั้งที่ลาดเท เช่น ที่ลาดเชิงเขา แต่ไม่ควรสูงกว่าระดับน้ำทะเล เกิน 600 เมตร ไม่เหมาะในสภาพน้ำท่วมขัง สภาพความเป็นกรดด่าง (pH) ของดินควรเป็นกรดเล็กน้อย คือตั้งแต่ 4.5-5.5 แต่ไม่เกิน 6.0 ดินควรมีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง มีอินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 การระบายน้ำดี และระดับหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร
ข้อแนะนำสำหรับการปลูกสับปะรด ต้องวางแผนการผลิตให้ดี เพื่อให้ผลผลิตกระจายตัวสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาในการจำหน่าย โดยเฉพาะสับปะรดส่งโรงงาน โดยหลักการแล้ว หากมีแหล่งน้ำเพียงพอสามารถปลูกสับปะรดได้ตลอดปี แต่ถ้าหากไม่มีแหล่งน้ำ ควรปลูกสับปะรดในช่วงต้นฝน โดยช่วงฤดูแล้งควรปลูกด้วยจุก ช่วงฤดูฝนควรปลูกด้วยหน่อ เพื่อเป็นการกระจายการผลิต