ค้างค่าไฟกี่เดือนถึงโดนตัด? เช็กก่อนถูกระงับ พร้อมวิธีแก้ไข
ค้างชำระค่าไฟฟ้ากี่เดือนถึงโดนตัด หลายคนอาจเคยประสบปัญหา เช็กก่อนถูกระงับ พร้อมวิธีแก้ไข ค้างชำระกี่เดือนถึงโดนตัด?
ค้างค่าไฟกี่เดือนถึงโดนตัด? เช็กก่อนถูกระงับ พร้อมวิธีแก้ไข หลายคนอาจเคยประสบปัญหา “ค้างชำระค่าไฟฟ้า” ไม่ว่าจะเป็นเพราะลืมจ่าย ค่าใช้จ่ายสูงเกินคาด หรือปัญหาทางการเงิน แต่รู้หรือไม่ว่าหากค้างจ่ายนานเกินกำหนด อาจถูกระงับบริการได้ แล้วต้องค้างกี่เดือนถึงจะถูกตัด? และหากถูกตัดไปแล้ว ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถกลับมาใช้งานได้อีก มาดูรายละเอียดและวิธีแก้ไขเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้กัน
เหตุผลที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อาจตัดไฟฟ้าของคุณ
1. ไม่ชำระค่าไฟฟ้าตามกำหนด
- เกินกำหนดชำระ หากคุณไม่ชำระค่าไฟฟ้าภายในกำหนดเวลาที่ระบุในใบแจ้งหนี้ กฟน. จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้ชำระเงินภายใน 7 วัน หากยังไม่ชำระเงินอีก กฟน. จะทำการ ปลดสายไฟ (ตัดสายไฟฟ้า)
- หลังจากปลดสายไฟ หากยังไม่ชำระเงินภายใน 3 วันหลังจากถูกปลดสายไฟ กฟน. จะทำการ ตัดมิเตอร์ (นำมิเตอร์ออก)
2. ไม่วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม
- หากคุณมีการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงประเภทการใช้ไฟฟ้า กฟน. อาจขอให้คุณวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม หากคุณไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจถูกตัดไฟฟ้าได้
3. การขายหรือต่อโยงไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
- การขายไฟฟ้าต่อ หรือการต่อโยงไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก กฟน. เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่การถูกตัดไฟฟ้าได้
4. ไม่ดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในให้ปลอดภัย
- ผู้ใช้ไฟฟ้ามีหน้าที่ดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย หาก กฟน. ตรวจพบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณไม่ได้มาตรฐานและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ กฟน. จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้แก้ไข หากไม่ดำเนินการแก้ไขตามกำหนด ก็อาจถูกตัดไฟฟ้าได้
5. การกระทำโดยมิชอบเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า
- การกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ไฟฟ้าอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบธรรม เช่น การลักลอบใช้ไฟฟ้า การดัดแปลงมิเตอร์ หรือการกระทำอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้า ก็อาจเป็นสาเหตุให้ถูกตัดไฟฟ้าได้
6. การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดคลื่นรบกวน
- การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดคลื่นรบกวนและส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าบริเวณใกล้เคียง อาจเป็นเหตุให้ถูกตัดไฟฟ้าได้ หาก กฟน. ได้รับเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบพบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณเป็นต้นเหตุของปัญหา
7. การใช้ไฟฟ้าที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ
- การใช้ไฟฟ้าในลักษณะที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ เช่น การกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือการกระทำอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ก็อาจถูกตัดไฟฟ้าได้
8. การฝ่าฝืนข้อบังคับของการไฟฟ้านครหลวง
- การไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของการไฟฟ้านครหลวงว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ ก็อาจเป็นเหตุให้ถูกตัดไฟฟ้าได้
ขั้นตอนการขอต่อกลับการใช้ไฟฟ้า หลังถูกงดจ่ายไฟฟ้า
หากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้งดจ่ายไฟฟ้าบ้านของคุณ เนื่องจากค้างชำระค่าไฟฟ้า หรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ คุณสามารถดำเนินการขอต่อกลับการใช้ไฟฟ้าได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระยะเวลาในการขอต่อกลับ
คุณต้องติดต่อ กฟน. เพื่อขอต่อกลับการใช้ไฟฟ้าภายใน 1 ปี นับจากวันที่ถูกงดจ่ายไฟฟ้า หากเกินกำหนด 1 ปี จะไม่สามารถขอต่อกลับได้ และต้องดำเนินการขอใช้ไฟฟ้าใหม่
การขอต่อกลับภายใน 6 เดือน
- เอกสาร: ยื่นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของสถานที่ติดตั้งไฟฟ้า เช่น โฉนดที่ดิน สัญญาเช่า หรือเอกสารอื่น ๆ ที่แสดงความเป็นเจ้าของ
ค่าใช้จ่าย:*
- ชำระค่าต่อกลับ
- วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าใหม่ (หากไม่เคยวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าไว้ก่อน)
- ชำระค่าอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าตามค่าใช้จ่ายจริง (กรณีที่ กฟน. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอุปกรณ์)
- ชำระค่าตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน (ไม่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในหรือไม่ก็ตาม)
- การขอต่อกลับ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี
- เอกสาร: ยื่นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของสถานที่ติดตั้งไฟฟ้า
ค่าใช้จ่าย:*
- ชำระค่าต่อกลับ
- วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าใหม่ (หากไม่เคยวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าไว้ก่อน)
- ชำระค่าอุปกรณ์ระบบจำหน่ายไฟฟ้าตามค่าใช้จ่ายจริง (เฉพาะกรณีที่ กฟน. ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า)
- ชำระค่าตรวจอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน (ไม่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในหรือไม่ก็ตาม)
- การงดจ่ายไฟฟ้าเกินกว่า 1 ปี
- หากงดจ่ายไฟฟ้าเกินกว่า 1 ปี จะไม่สามารถขอต่อกลับได้ และต้องยื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด
ค่าธรรมเนียมขอต่อกลับไฟฟ้าและต่อมิเตอร์
- ยอดค้างชำระไม่เกิน 10,000 บาท: ค่าธรรมเนียม 40 บาท
- ยอดค้างชำระเกิน 10,000 บาท: ชำระค่าธรรมเนียมต่อกลับ พร้อมกับชำระเบี้ยปรับ
ข้อแนะนำ
- ติดต่อ กฟน.: ติดต่อ กฟน. ในพื้นที่ของคุณ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องใช้ และค่าใช้จ่ายในการขอต่อกลับ
- เตรียมเอกสารให้พร้อม: เตรียมเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้พร้อม เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินการ
- ชำระค่าใช้จ่าย: เตรียมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้พร้อม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น
ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่การไฟฟ้า หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค