เชื่อได้ว่าหลายๆคนวาดฝันที่จะมีชีวิต มีความสุขเรียบง่ายในชนบทบนพื้นฐานอาชีพเกษตรกร หลายคนเบื่อและทนแรงกดดันจากอาชีพพนักงานประจำแล้วอยากมาทำการเกษตร บางคนวางแผนเกษียณเพื่อจะออกมาทำเกษตรหรือแม้แต่บางคนอยากจะหักมุมชีวิตมาทำเกษตร เช่นเดียวกับคุณมนัส สุภาพ วัย 49 ปี ดร.เทคนิคการแพทย์ 10 ปริญญา อดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน สู่เกษตรกรบ้านนอกเต็มเวลากับข้อคิดก่อนลาออกจากงานประจำมาทำเกษตร
โดยคุณมนัสเล่าให้กับทีมข่าวไทยนิวส์ฟังว่า สาเหตุที่ผันตัวมาเป็นเกษตรกรเนื่องจาก วันที่เป็นลูกจ้างมีความรู้สึกว่าตอนตำแหน่งเล็กๆก็อยากไปตำแหน่งที่สูงขึ้น และก็สามารถทำได้แต่พอไปถึงจุดนั้นรู้สึกกดดัน และพอทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรามากขึ้น ทำให้เราหมด passion ที่จะทำงานเป็นลูกจ้างประจำ เรามีความต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และในช่วงนั้นคุณพ่อก็เสียชีวิตเหลือคุณแม่คนเดียว เลยมีความรู้สึกว่าถ้าจะทำอะไรก็ต้องรีบทำ และพอมาถึงจุดสูงสุด
หากถามเรื่องเงิน เชื่อว่าใครๆก็อยากได้ แต่ปัจจุบันเรื่องเงินจะเป็นเรื่องที่รองลงมา อีกทั้งตนเป็นเด็กชนบทที่เกลียดความจน และต้องการออกจาก comfort zone โดยระหว่างทำงานประจำตนเองมีเงินแต่ไม่มีเวลา แต่เรื่องสุขภาพไม่มีปัญหาเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ
สำหรับใครที่มีทุนน้อยแต่อยากทำเกษตรแนะนำว่า รายได้คุณน้อย กับรายได้คุณเยอะแต่มีรายจ่ายเยอะตามรายได้ หากคุณยังไม่สำเร็จในเรื่องของการวางแผนทางการเงิน และหากหันมาทำธุรกิจเองมันหนักมากกว่าการเงิน ฉะนั้นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความคิดทำตัวเองให้สำเร็จ เน้นเรื่องการเงินด้วยการเก็บออมให้ได้มากที่สุด และไม่แนะนำให้ลาออกจากงานตราบใดที่คุณยังมีเงินไม่พอ แต่หากมีที่มรดก 1-3 ไร่ ถ้าอยากทำสามารถใช้แรงตัวเองทำได้ แต่ถ้ามากกว่า 3 ไร่ขึ้นไปทำด้วยตัวเองไม่ไหวจำเป็นจะต้องจ้างแรงงานเกษตรเข้ามาช่วย
ถ้าหากไม่มีใจรักจริงหรือไม่มีพื้นเพด้านการการเกษตรกรรมจากบรรพบุรุษถือว่าเป็นเรื่องยาก พลังกาย พลังใจไม่พอทำไปสักพักเดี๋ยวก็เลิก ลองทำได้ ถ้าใช่เดินหน้าต่อ ถ้าไม่ใช่ถอยหลัง แต่การถอยหลังนี้คุณไม่จำเป็นต้องลาออกจากงาน "หากมีหนี้ทางการเงินควรเคลียร์ให้หมดก่อนมาทำเกษตรเพราะมิฉะนั้นจะขาดสภาพคล่องและมีปัญหาทางการเงินพลอยจะมีปัญหาชีวิตในอีกหลายๆรูปแบบตามมา"