เผยราคารถมือสอง “Bentley Continental gt” รุ่นที่กำลังเป็นประเด็นร้อน
เผยราคารถมือสอง Bentley Continental gt รุ่นที่เป็นข่าวนั้น ปัจจุบันราคามือสองไม่ได้แพงอย่างที่คิด ซึ่งวันนี้เราจะเผยราคามือสองที่แท้จริง
เผยราคารถมือสอง “ Bentley Continental gt ” รุ่นที่กำลังเป็นประเด็นร้อน
จากประเด็นดราม่า “เสี่ยเบนท์ลีย์” ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 10 มกราคม 2566 จากกรณี รถหรูเบนท์ลีย์ขับมาด้วยความเร็ว แซงซ้ายแล้วเบี่ยงขวาก่อนจะพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง จนรถยนต์มิตซูบิชิเสียหลักไปชนรถดับเพลิง อปพร.บางรัก เสียหายทั้ง 3 คัน ส่งผลให้มีผู้บาดทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เด็กอายุ 4 ขวบ 1 คน
ซึ่งทราบกันหรือไม่ว่า รถ Bentley Continental gt รุ่นที่เป็นข่าวนั้น ปัจจุบันราคามือสองไม่ได้แพงอย่างที่คิด ซึ่งวันนี้เราจะเผยราคามือสองที่แท้จริงกันครับ
Bentley Continental gt ที่ปรากฏบนภาพข่าวนั้น เป็นโฉมแรกที่ทำตลาดในช่วงระหว่างปี 2003 ไปจนถึงปี 2011 ซึ่งสมัยนั้นรถยนต์นำเข้าอิสระกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีทั้งแบบนำเข้าทั้งคันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการนำเข้าในรูปแบบอะไหล่ จากนั้นจึงใช้วิธีจดประกอบในประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่สูงลิบลิ่ว ทำให้รถรุ่นนี้มีราคาซื้อขายสมัยป้ายกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทปลาย ไปจนถึงเกิน 20 ล้านบาทขึ้นอยู่กับสเปกและออปชันที่ติดตั้งมา
ซึ่งปัจจุบัน Bentley Continental gt เจเนอเรชันแรก ถูกซื้อขายกันด้วยราคาตั้งแต่ประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป และมีราคาสูงสุดในตลาดไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพของรถแต่ละคัน การบำรุงรักษาของเจ้าของเดิม รวมถึงรูปแบบการนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรานั้นเอง
Bentley Continental gt เจเนอเรชันที่ 1 มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน W12 ความจุ 6.0 ลิตร มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 560 - 630 แรงม้า แรงบิดสูงสุดตั้งแต่ 650 - 800 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ข้างแบบ AWD ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยในรุ่นเริ่มต้นสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 318 กม./ชม.
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะเครื่องยนต์แบบ 12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร ของ Bentley Continental gt โฉมแรกนั้น มีอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือประมาณ 5.8 กม./ลิตร และหากเป็นอัตราสิ้นเปลืองในเมืองก็ยิ่งสาหัสด้วยตัวเลขอยู่ที่ 26.2 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือประมาณ 3.8 กม./ลิตร
