เผยโฉม Ford Everest WILDTRAK ครั้งแรกที่นิวซีแลนด์ ขุมพลังดีเซล
Ford Everest WILDTRAK เปิดตัวที่เเรกในประเทศ นิวซีแลนด์ รูปโฉมภายนอก ดุดันไม่เกรงใจ ไม่แพ้รุ่นกระบะ เลยก็ว่าได้ รวมไปถึงเครื่องยนต์ขุมพลังดีเซลที่เร้าใจกว่าเดิม
เผยโฉม Ford Everest WILDTRAK ครั้งแรกที่นิวซีแลนด์ ขุมพลังดีเซล
Ford Everest WILDTRAK ดุดันไม่เกรงใจ ไม่แพ้รุ่นกระบะ เลยทีเดียว และถือว่ารถยนต์ที่เป็นรถยนต์ประเภท PPV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสำหรับรุ่นล่าสุดได้เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศนิวซีแลนด์ ตกแต่งภายนอกและภายในสไตล์ดุดันเช่นเดียวกับ Ranger Wildtrak มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ ดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฏาคม 2566 นี้
หลังจากเปิดตัวและวางจำหน่ายรถอเนกประสงค์พื้นฐานรถกระบะ Ranger อย่าง Everest พร้อมทางเลือกหลายรุ่นย่อย ตั้งแต่ Trend Sport Titanium Titanium+ และ Platinum โดยในแต่ละตลาดหลักๆ อย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศไทย จะมีทางเลือกขุมพลังและรุ่นย่อย รวมไปถึงอุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันไป
รูปโฉมภายนอก สะดุดตาด้วยสีตัวถัง Luxe Yellow shade พิเศษเฉพาะรถตระกูล Wildtrak ที่ตกแต่งชิ้นส่วนต่างๆ โดยสีเทาเช่นเดียวกันกับ รุ่นน้องกระบะ Ranger นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งกระจังหน้าลวดลายพิเศษ ที่มากับกันชนหน้าที่มีความดุดันยิ่งขึ้น บันไดข้างขนาดใหญ่เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง ที่ตกแต่งด้วยสีส้มและเทา ตลอดจนราวหลังคา พร้อมตัวอักษรบ่งบอกรุ่นย่อยต่างๆ พ่นด้วยสีดำ บริเวณฝากระโปรงหน้า ประตูคู่หน้าและฝากระโปรงท้าย ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว
ขุมพลังเครื่องยนต์ เป็นแบบดีเซล V6 DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 184 กิโลวัตต์ หรือ 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4A พร้อมระบบ Active Centre Differential และระบบล็อกเฟืองท้าย Dift Lock ที่ล้อคู่หลัง แบบเดียวกับ Ford Ranger RAPTOR
ภายในห้องโดยสาร มาในแนวหรูหรา ผสมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อนมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จอกลางระบบ infotainment Ford Sync ขนาด 12 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ควบคู่กับจอมาตรวัดขนาด 8 นิ้ว ปิดท้ายด้วยเครื่องเสียง Premium จำนวน 10 ลำโพง ตามมาด้วยมเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสี Ebony สลับกับผ้า Suede สี Miko พร้อมเดินด้ายสีส้ม Cyber Orange และปักตัวอักษร Wildtrak ที่บริเวณพนักพิง เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง เพื่อความสะดวกสบายต่อที่ขับขี่
ที่มา: Carscoops