เผย 5 รถเก๋งมือสองเครื่องยนต์ดีเซล งบไม่เกิน 300,000 บาท ในปี 2023
รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลในปีหลังๆมานี้ เรียกว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แทบจะ 40 เปอร์เซ็นต์ ของเครื่องยนต์เบนซินกันเลยทีเดียวการใช้รถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซินมากกว่า 10 บาทต่อลิตร แถมมีอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินอีกด้วย เพราะฉะนั้น สำหรับวันนี้ทางเราจะมานำเสนอ รถเก๋งมือสองเครื่องยนต์ดีเซล ที่ราคาไม่เกิน 300,000 บาท กันครับ
1.Ford Focus TDCi รุ่นปี 2008 - 2012
ราคามือสองโดยประมาณ: 220,000 - 280,000 บาท
Ford Focus TDCi เครื่องยนต์ดีเซลถูกขนานนามว่าเป็น BMW 320d ในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้ เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความแรงและประหยัดน้ำมันโดยไม่ต้องพึ่งพาระบบไฮบริด แถมยังมีราคาป้ายแดงในสมัยนั้นไม่ถึง 1.2 ล้านบาท ส่วนราคามือสองในปัจจุบันถือว่าแข็งมาก การหา Focus TDCi ราคาต่ำกว่า 2 แสนบาทแทบเป็นไปไม่ได้เลย (ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินป้วนเปี้ยนราว 1 แสนบาทบวกลบเท่านั้น)
สำหรับ Ford Focus TDCi ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รวมถึงเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะที่วางขายในช่วงแรกๆ เท่านั้น ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอกเมืองมักไม่ต่ำกว่า 17 กม./ลิตร ถ้าเครื่องยนต์และเกียร์ยังอยู่ในสภาพดี และหากเท้าเบาพออาจขึ้นไปแตะ 23 - 24 กม./ลิตร
2.Chevrolet Cruze 2.0 LTZ Diesel รุ่นปี 2008 - 2012
ราคามือสองโดยประมาณ: 240,000 - 290,000 บาท
Chevrolet Cruze ก็เคยนำเอาเครื่องยนต์ดีเซลมาวางขายให้กับลูกค้าชาวไทยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นของแรร์ในตลาดมือสองที่หลายคนคอยจับจ้องคว้ามาเป็นเจ้าของ อีกทั้งรูปลักษณ์ยังคงดูภูมิฐานและทันสมัยแม้เวลาล่วงเลยมากกว่า 10 ปี แถมยังมีราคามือสองค้างฟ้าตั้งแต่ 2 แสนบาทกลางขึ้นไปขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละคัน
Chevrolet Cruze 2.0 LTZ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล VCDi ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเท่านั้น ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอกเมืองอยู่ที่ประมาณ 15 - 16 กม./ลิตรขึ้นไป แม้ว่าจะตัวเลขจะไม่ว้าวเท่ากับ Focus TDCi แต่อย่าลืมว่าราคาน้ำมันดีเซลถูกกว่าเบนซินอยู่มากโข จึงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากกว่าแน่นอน
3.Mazda2 SKYACTIV-D รุ่นปี 2015 - ปัจจุบัน
ราคามือสองโดยประมาณ: 310,000 - 490,000 บาท
Mazda2 SKYACTIV-D เป็นรถยนต์พิกัด B-segment เพียงรุ่นเดียวในตลาดที่มีเครื่องยนต์ดีเซลมาให้เป็นทางเลือก แถมยังถือเป็นโมเดลที่วางขายในปัจจุบันอีกต่างหาก จึงเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย แถมหมดกังวลเรื่องอะไหล่และศูนย์บริการไปได้เลย มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอกเมืองทำได้ 22 - 24 กม./ลิตรสบายๆ
4.Volkswagen Passat 1.9 TDI รุ่นปี 2003 - 2006
ราคามือสองโดยประมาณ: 120,000 - 180,000 บาท
Volkswagen Passat TDi ถือเป็นรถเก๋งรุ่นแรกๆ ในตลาดเมืองไทยที่นำเอาเครื่องยนต์ดีเซลมาวางจำหน่าย ซึ่งในตลาดยุโรปนิยมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรของโฟล์กสวาเกนเป็นอย่างมาก และถูกวางลงในรถยนต์หลายรุ่นหลายยี่ห้อ แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องความแรงและประหยัดน้ำมัน แต่ปัจจุบันหา Passat TDI มือสองได้ยากเต็มที เท่าที่มีอยู่ในตลาดก็มักผ่านการใช้งานจนช้ำพอสมควร แถมยังมีปัญหาเรื่องชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยทนความร้อนของแดดเมืองไทยสักเท่าไหร่ ใครที่มีรถสภาพดีก็มักเก็บยาวเพราะทำใจรับราคามือสองไม่ไหว ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยนอกเมือง 15 - 17 กม./ลิตร ก็ยังทำให้ใครหลายคนยอมกัดฟันหาซื้อมาใช้งานกัน
5.Skoda Fabia Combi 1.9 SDI รุ่นปี 2001 - 2004
ราคามือสองโดยประมาณ: 60,000 - 120,000 บาท
ส่วนคันนี้ก็เรียกว่าเป็นของแถมแล้วกัน เพราะ Skoda Fabia 1.9 SDI เคยถูกนำเข้าอย่างเป็นทางการในไทยพักหนึ่ง แต่ยอดขายก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับแบรนด์เจ้าตลาด ทำให้ปริมาณรถมือสองน้อยตามไปด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถรุ่นนี้มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเท่านั้น ซึ่งเครื่องยนต์ 1.9 SDI ของ Skoda Fabia Combi แท้จริงแล้วก็คือเครื่องยนต์ 1.9 TDI บล็อกสหกรณ์ของโฟล์กสวาเกนที่ถูกถอดเทอร์โบออก จึงกลายเป็นเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและทนทานมากที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่โฟล์กสวาเกนเคยผลิตมา ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในปัจจุบันทำได้ไม่ต่ำกว่า 20 - 24 กม./ลิตร แม้ว่าอายุอานามจะผ่านมาเกือบ 20 ปีก็ตามแต่