เผย! รถยนต์ไฟฟ้าEv ในปี 2024 ที่กำลังจะเข้าไทย จะมีรุ่นไหนบ้าง ไปชมกันเลย
1. Chery OMODA 5 EV
OMODA คือแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่หรือรถยนต์ไฟฟ้า อยู่ในเครือของ Chery International จากประเทศจีน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ทันสมัย โดยชื่อ OMODA ในแต่ละตัวอักษร ล้วนแล้วแต่มีความหมายในตัวเอง ได้แก่ O หมายถึง Oxygen อันเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งโลก และยังสื่อถึงน้ำเสียงของความประหลาดใจ MODA หมายถึง Modern หรือความทันสมัย สื่อถึงเทรนด์แฟชั่นยุคปัจจุบัน และยังเป็นแทนของไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ MODA 5 EV คาดว่าจะจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่จะถึงนี้
2. Neta X
NETA X รถยนต์ไฟฟ้าพิกัด C-SUV ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก NETA U-II รุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในตัวรถให้มีความโฉมเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น พร้อมอัปเดทฟีเจอร์ทันสมัยเข้าไปหลายจุดด้วยกัน งานออกแบบปรับโฉมใหม่ไปในทิศทางเดียวกับ NETA S ด้วยดีไซน์ไฟหรี่แบบ L-Shape ส่วนไฟหน้าติดตั้งอยู่บริเวณกันชนหน้า ขนาดตัวรถของ NETA X มีขนาดที่ใหญ่กว่า BYD ATTO 3 ในทุกมิติ โดย NETA X มีขนาดตัวรถ ยาว 4,619 มม. กว้าง 1,860 มม. และสูง 1,628 มม. ความยาวฐานล้อ 2,770 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับ BYD ATTO 3 พบว่า มีขนาดตัวรถ ยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. ความยาวฐานล้อ 2,720 มม. โดยความยาวของ NETA X จะมากกว่า NETA U 70 มม. ส่วนอื่นๆ จะเหมือนกันทั้งหมด เนื่องจากถูกพัฒนาต่อยอดมาจากพื้นฐานเดิม
3. Tesla Model Y (Minor Change)
Tesla Model Y ตัว Minor Change ที่จะเปิดตัวในไทยช่วงปี 2024 ได้มีการเผยโฉมที่ประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2023 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย ในส่วนของข้อมูลการเปลี่ยนนั้นมีไม่มาก แต่นับว่ายกผลประโยชน์ให้ลูกค้า เนื่องจากว่าเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานเข้ามาใหม่แต่ราคาเพิ่มนิดเดียว ซึ่งในส่วนที่มีการปรับโฉมใหม่นั้น ได้แก่ ล้อขนาด 19 นิ้ว ลาย Gemini สีดำ (ซึ่งของเดิมจะเป็นสีเทา) แนวเดียวกับตัว Model 3 Minor Change ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้
Tesla Model Y Minor Change คาดว่าจะจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณต้นปีหน้า และหากเร็วกว่านั้นเราอาจจะได้สัมผัสกับน้องเร็วกว่าเดิมในช่วงปลายปี 2023 อันนี้ต้องรอทางค่ายคอนเฟิร์มอีกที
สำหรับใครที่กำลังเฝ้ารอ ทั้ง 3 รุ่นนี้ บอกเลยว่า อีกไม่ช้าเกินรออย่างแน่นอน โดยแต่ล่ะแบรนด์นั้น ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ซึ่งในปี 2024 เตรียมตัวนำมาเป็นเจ้าได้เลยครับ