ใช้รถต้องรู้! 6 เคล็ดลับขับรถปลอดภัย เมื่อในรถมีลูกน้อยโดยสารอยู่
1.คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
หลักการง่ายๆที่ทุกคนส่วนใหญ่ชอบมองข้าม ก่อนออกเดินทาง แน่นอนว่าคุณจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ นอกจากรัดเข็มขัดให้พวกเขาแล้ว คุณจะต้องไม่ลืมรัดเข็มขัดของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ไกลเพียงใดก็ตาม
2. ปฏิบัติตามกฎจราจร
สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จะต้องนั่งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง และคาร์ซีทเป็นพื้นฐานในการดูแลความปลอดภัยให้กับลูกน้อย ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหนักหรือเบาก็ตาม ซึ่งมีการทดสอบแสดงการชนของรถยนต์ที่มีเด็กสูงต่ำกว่า 1.5 เมตร นั่งบนคาร์ซีทจะปลอดภัยมากกว่าการนั่งแบบปกติถึง 3 เท่า แม้ว่าจะคาดเข็มขัดนิรภัยก็ตาม และก่อนที่คุณจะซื้อคาร์ซีทควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์ของคุณมีจุดยึด ISOFIX หรือไม่ เพื่อการติดตั้งอย่างถูกต้องที่สุด
3.ห้ามทิ้งเด็กไว้บนรถตามลำพัง
ข้อนี้สำคัญมากๆ พ่อเเม่ทุกคนไม่ควรทิ้งเด็กไว้บนรถเพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครดูแล เพราะเพียงเสี่ยววินาทีอันตรายต่างๆ ที่คุณไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ และนอกจากการห้ามทิ้งเด็กไว้บนรถลำพังแล้ว ในวันที่อากาศร้อนอุณหภูมิภายในรถก็จะสูงจนเป็นอันตรายได้ ไม่ควรดับเครื่องยนต์โดยที่ไม่เปิดกระจกหรือซันรูฟ เพราะเด็กจะไวต่อความร้อนและอาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ตามมาเช่น โรคลมแดดซึ่งทำให้เด็กเสียชีวิตได้
4.เตรียมความพร้อมกับเหตุร้ายทุกสถานการณ์
การเตรียมความพร้อมต่อเหตุการณ์ร้ายๆ ไม่ใช่การมองโลกในแง่ร้ายหรือเป็นคนคิดลบแต่อย่างใด แต่มันคือการแสดงความตื่นตัวและมีสติกับสิ่งรอบตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้เหตุการณ์ข้างหน้า ดังนั้นสติและและความพร้อมจึงสำคัญมากๆ เมื่อต้องเผชิญกับภัยอันตรายบนท้องถนน นอกจากอุบัติเหตุแล้วการตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์จี้หรือถูกป้นก็ยิ่งน่าเป็นห่วง และหากมีลูกของคุณเดินทางไปด้วยยิ่งไปกันใหญ่ แนะนำว่าให้พวกเขาลงไปจากรถพร้อมๆ กับคุณ เพราะอย่างน้อยๆ หากเกิดเหตุการณ์โจรกรรมรถยนต์จริงๆ ลูกของคุณก็จะปลอดภัย นอกจากนี้สถาบันป้องกันการจี้แห่งชาติ หรือ National Hijack Prevention Academy ให้คำแนะนำว่า เด็กที่อายุน้อยที่สุดควรนั่งด้านหลังคนขับและเด็กที่อายุมากที่สุดอยู่ทางด้านซ้าย เพราะถ้าหากคุณถูกจี้และจำเป็นต้องลงจากรถ คุณสามารถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วจากประตูคนขับไปที่ประตูด้านหลังโดยตรง และคุณสามารถเอื้อมมือข้ามตัวเด็กที่อายุน้อยที่สุดเพื่อปลดสายรัดเด็กคนโตได้นั่นเอง
5.งดส่งข้อความขณะขับรถ
ในยุคสมัยนี้ Smart Phone เป็นหนึ่งในปัจจัยของเราไปแล้ว แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มันตลอดเวลา ยิ่งขณะขับรถยิ่งไม่ควร เพราะนอกจากการตอบข้อความแล้ว การอ่านข้อความก็จะทำให้เราเสียสมาธิจากหน้าพวงมาลัยเช่นเดียวกัน ควรปิดเสียงเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของคุณขณะขับรถ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่ตัวผู้ขับขี่เองทำให้ผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ไม่ปลอดภัย
6. เปิดใช้งานระบบล็อคป้องกันเด็ก
เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างเล่นได้เอง ให้เปิดใช้งานระบบล็อคป้องกันเด็กที่ประตูรถของคุณ และควรล็อคกระจกไฟฟ้าเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกๆ ของคุณได้รับบาดเจ็บ เพราะเด็กอาจจะไม่ได้กดเล่นแต่สามารถไปโดนปุ่มได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจเกิดความไม่ปลอดภัยแก่เด็กๆ โดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นจึงควรเช็คให้ดีก่อนออกเดินทางทุกครั้งว่ากดเปิดระบบนี้แล้วรึยัง
เพียงเเค่ 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ รับรองได้ว่าลูกน้อยของคุณจะปลอดภัยทุกการเดินและ สามารถเพิ่มความมั่นใจ และเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้นแน่นอนครับ