ใช้รถต้องรู้! ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันยังไง คุ้มครองอะไรบ้าง ควรเลือกเเบบไหน
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง
สำหรับ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมขึ้นมาจาก ประกันรถยนต์ชั้น 2 ซึ่งให้ความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นอย่างมาก มีเพียงข้อแตกต่างเล็กน้อย นั่นก็คือ ประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองต่อรถยนต์ที่ทำประกันเฉพาะเมื่อมีคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่ ประกันชั้น 1 คุ้มครองทั้งแบบอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี รวมถึงอุบัติเหตุแบบที่ไม่มีคู่กรณี โดยอาจเกิดจากผู้ขับขี่เอง เกิดจากปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้ หรือถูกชนแล้วหนี เป็นต้น
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับใคร?
ใครที่กำลังตัดสินใจว่า ประกันชั้น 2+ จะเหมาะกับตัวเองหรือไม่นั้น TIPINSURE ก็ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถค่อนข้างเชี่ยวชาญ มีความคุ้นชินกับรถยนต์หรือถนนหนทางที่มีรถเยอะๆ บ้างแล้ว และมีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการขับเฉี่ยวชนเอง รวมถึงยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบในการซื้อประกันรถยนต์ แต่อยากได้ความคุ้มครองเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ขอบอกเลยว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นตอบโจทย์มากเลยทีเดียวล่ะ
นอกจากนี้ ประกันชั้น 2+ ยังเหมาะสำหรับคนที่มีรถอายุเกิน 5 ปี 7 ปี หรืออายุเกินกว่าที่ประกันชั้น 1 กำหนด ก็สามารถเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ แทนได้เช่นกัน
แต่หากใครที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์ในราคาสบายกระเป๋ามากกว่านั้น ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยมีรายละเอียดความคุ้มครอง ดังนี้
ประกันชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง
สำหรับความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส นั้นมีความใกล้เคียงกับ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นอย่างมาก คือคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันที่ทำประกันก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น และยังคงคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองความบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร แต่หากถามว่า ประกัน 2+ กับ 3+ ต่างกันยังไง นั้นก็คือ ประกันชั้น 3+ จะไม่คุ้มครองกรณี รถหาย ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ นั่นเอง
ประกันชั้น 3+ เหมาะกับใคร?
แม้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จะมีข้อจำกัดตรงที่ไม่คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้รถ และน้ำท่วมรถ แต่ก็ยังคงให้ความคุ้มครองรถยนต์คันทำประกัน ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงคู่กรณี ซึ่งเหมาะกับผู้ขับรถที่ชำนาญ ผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุน้อย หรือ รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป รวมถึงรถเก่า รถมือสอง ที่มีความเสี่ยงน้อยต่อการถูกขโมยรถ อีกทั้งยังมีเบี้ยประกันภัยที่ไม่แพงอีกด้วย
เสริมด้วยข้อควรระวัง ก่อนทำประกันชั้น 2+ และ 3+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ จะคุ้มครองรถคันที่เอาประกันภัยก็ต่อเมื่อประสบอุบัติเหตุกับพาหนะที่สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้เท่านั้น จึงไม่คุ้มครองกรณีเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น เฉี่ยวเสาบ้าน, ชนกระถางต้นไม้ ฯลฯ
อีกทั้งยังไม่คุ้มครองกรณีถูกชนแล้วหนี ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์รายละเอียดของคู่กรณีได้ ยกตัวอย่างเช่น หากจอดรถไว้ข้างถนน หากถูกเฉี่ยวชนแล้วคู่กรณีหลบหนีไป ลักษณะเช่นนี้เจ้าของรถจะต้องพิสูจน์หาคู่กรณีที่แน่ชัดได้เสียก่อน จึงจะได้รับความคุ้มครอง
ซึ่ง หากจำเป็นต้องทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ เพื่อจะประหยัดค่าเบี้ยจากประกันชั้น 1 ข้อเเนะนำที่ดี ควรติดตั้งกล้องหน้ารถเพื่อเป็นตัวช่วยในการพิสูจน์คู่กรณีเอาไว้ เพราะว่าอาจจะโชคร้ายถูกปฏิเสธการเคลมประกันได้