ใช้รถต้องรู้! ทำไมซื้อรถยนต์ "สีขาวมุก" ต้องเพิ่มเงิน ต่างกับสีอื่นๆ
ทำไมสีขาวมุกถึงต้องเพิ่มเงินจากปกติ?
ปกติแล้วสีรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สี Solid และสี Metallic ซึ่งสีทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยที่สี Solid (หรือ Non-metallic) จะมีลักษณะเป็นสีพื้น ไม่มีส่วนผสมของเมทัลลิกช่วยสร้างความแวววาว ซึ่งกระบวนการทำสีประเภทนี้จะมีต้นทุนต่ำ เนื่องจากจะเป็นการพ่นเนื้อสีลงบนชั้นรองพื้น จากนั้นจึงค่อยพ่นแล็กเกอร์เพื่อเคลือบสีเอาไว้เท่านั้น ดังนั้นสีประเภทนี้จึงมักพบได้ในรถขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีราคาไม่สูงนัก
ส่วนสี Metallic จะมีส่วนผสมของผงอะลูมิเนียมช่วยสร้างความแวววาว โดยเฉพาะเมื่อกระทบกับแสงแดดหรือแสงไฟ ทำให้รถยนต์ดูมีความสวยงามมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าต้นทุนการทำสีประเภทนี้ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ถึงกระนั้นผู้ซื้อรถก็มักไม่จำเป็นต้องเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ตัวถังสีเมทัลลิก เนื่องจากผู้ผลิตก็จะคิดรวมเข้าไปในมูลค่าของอยู่แล้ว เว้นแต่รถบางรุ่นที่มีการทำสีแบบพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีก ก็อาจจำเป็นต้องเพิ่มเงินเพื่อแลกกับความสวยงามที่เพิ่มขึ้นมา
ขณะที่สีขาวมุกจะมีความพิเศษยิ่งกว่าสีเมทัลลิก เนื่องจากมีส่วนผสมของผลึกเซรามิก ช่วยสะท้อนและหักเหแสงได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เนื้อสีดูมีความลุ่มลึกมากกว่าสีขาวธรรมดา อีกทั้งเมื่อกระทบกับแสงไฟก็จะเกิดเป็นประกายสีรุ้งคล้ายกับมุก จึงเป็นที่มาว่าทำไมผู้ผลิตจึงเรียกสีประเภทนี้ว่าสีขาวมุก แต่สีชนิดนี้ก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าสีทั้งสองประเภทข้างต้น จึงเป็นที่มาว่าทำไมลูกค้าจึงต้องจ่ายเงินเพิ่มจากปกติเมื่อซื้อรถสีขาวมุกนั่นเองครับ!
อย่างไรก็ตามการเลือกสีรถเป็นขาวมุกก็เป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล แม้จะมีการเพิ่มเงินแต่ก็ไม่ใช่การเอาเปรียบจากค่ายรถแต่อย่างใดครับ เพราะจริง ๆ แล้วต้นทุนการพ่นสีมุกมีราคาแพงกว่า