ใช้รถต้องรู้! ทำไมชาร์จแบบ DC ถึงไม่ควรชาร์จเต็ม 100% แบตเตอรี่พังเร็ว

05 มีนาคม 2567

รถยนต์ไฟฟ้าEV เริ่มเข้ามามีปัจจัยมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้มีตู้สาธารณะกระแสไฟแบบ DC มากไว้ให้บริการอยู่เต็มไปหมด ซึ่งจากคำเเนะนำจากผู้ผลิต หรือศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าEV เอง ก็เเนะนำตรงกันว่า ควรชาร์จเต็มที่เพียง 80 - 90% เท่านั้น ไม่ควรชาร์จจนเต็ม 100%

ใช้รถต้องรู้! ทำไมชาร์จแบบ DC ถึงไม่ควรชาร์จเต็ม 100% แบตเตอรี่พังเร็ว

ใช้รถต้องรู้! ทำไมชาร์จแบบ DC ถึงไม่ควรชาร์จเต็ม 100% แบตเตอรี่พังเร็ว

 

ชาร์จ EV เต็ม 100% ทำแบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้นจริงมั๊ย

คำตอบคือ จริงครับ การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเต็ม 100% เป็นประจำ จะส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงเมื่อเทียบกับการชาร์จเพียง 80 - 90% ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบบ AC หรือ DC ก็ตาม ซึ่งแม้แต่ Elon Musk ก็เคยออกมาระบุว่าการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าควรชาร์จให้ปริมาณแบตเตอรี่อยู่ในช่วงระหว่าง 30 - 80% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นระดับแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาว
 

ซึ่งการชาร์จ DC สาธารณะ หากแบตเตอรี่เพิ่มสูงขึ้นถึงระดับ 80% ขึ้นไป ตู้ชาร์จจะค่อยๆ ลดการอัดประจุไฟลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งเมื่อระดับแบตเตอรี่สูงเกิน 90% ปริมาณกระแสไฟที่ป้อนให้กับแบตเตอรี่ก็แทบไม่ต่างกับการชาร์จด้วยตู้ AC หรือ Wallbox ภายในบ้าน ซึ่งเหตุผลหลักก็เพื่อถนอมแบตเตอรี่และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง

ใช้รถต้องรู้! ทำไมชาร์จแบบ DC ถึงไม่ควรชาร์จเต็ม 100% แบตเตอรี่พังเร็ว

 

 

 

 

ถึงแม้ว่าการชาร์จแบตเตอรี่ EV ไม่ให้เกิน 80% จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ความจำเป็นของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนขอแค่ชาร์จเพื่อให้พอไปถึงบ้านที่อยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตรได้ บางคนจำเป็นต้องชาร์จเต็ม 100% เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่อยู่ห่างออกไป การใช้ตู้ชาร์จ EV สาธารณะจึงควรอยู่บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิของผู้อื่นเสมอไม่ต่างอะไรกับการต่อคิวซื้ออาหารหรือเติมน้ำมัน

ใช้รถต้องรู้! ทำไมชาร์จแบบ DC ถึงไม่ควรชาร์จเต็ม 100% แบตเตอรี่พังเร็ว