ใช้รถต้องรู้! วิธีอ่านตัวเลขบนแก้มยาง บอกข้อมูลอะไรบ้าง?
ปกติยางรถยนต์มีอายุการใช้งาน 3-4 ปี ถึงคราวต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ แต่ว่าสำหรับบางท่าน ก็คงจะไม่รู้ว่า จะเลือกยางรถยนต์แบบไหนดี หรือ ขนาดใดที่จะเหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้งานมากที่ ซึ่งทาง Carfreedom จึงขอแนะนำวิธีอ่านความหมายของตัวเลขบนแก้มยาง จะได้ไม่พลาดเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่
บริเวณแก้มยางรถยนต์ทุกเส้นจะระบุชุดตัวเลขและตัวอักษรกำกับไว้ ยกตัวอย่างเช่น “225/45 R17 91V” ซึ่งมีความหมายดังนี้
- 225 คือ ความกว้างของหน้ายาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร โดยในที่นี้หมายถึงความกว้างหน้ายาง 225 มิลลิเมตร
- 45 คือ อัตราส่วนระหว่างความสูงของแก้มยางและความกว้างของหน้ายาง หรือเรียกว่า “ซีรี่ย์” โดยในที่นี้หมายถึงแก้มยางมีความสูงคิดเป็น 45% ของความกว้างหน้ายาง หรือเท่ากับ 225 x (45/100) = 101.25 มิลลิเมตร
โดยปกติแล้วยางที่มีซีรี่ย์ต่ำจะให้ประสิทธิภาพในการทรงตัวดีกว่ายางที่มีซีรี่ย์สูง เนื่องจากจะมีอาการโคลงตัวลดน้อยลง ขณะที่ยางซีรี่ย์สูงจะให้ความนุ่มนวลได้ดีกว่า เนื่องจากแก้มยางสามารถยุบตัวได้มากกว่า
- R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล (Radial) ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน โดยจะมียางอีกประเภทที่ใช้โครงสร้างแบบผ้าใบ (Diagonal หรือ Bias Ply) แทนที่ด้วยรหัส D
- 17 คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ ที่สามารถใส่ประกอบเข้ากับยางได้
- 91 คือ ดัชนีการรับน้ำหนักสูงสุดของยางแต่ละเส้น (Load Index) โดยในที่นี้สามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดได้ไม่เกิน 615 กิโลกรัม
- V คือ ดัชนีความเร็วสูงสุดของยางแต่ละเส้น (Speed Rating) โดยในที่นี้สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 240 กม./ชม.
อีกหนึ่งหมายเลขที่ผู้ใช้รถจำเป็นต้องรู้ความหมาย คือ สัปดาห์และปีที่ผลิตยาง โดยจะถูกกำกับไว้เป็นตัวเลข 4 หลัก อยู่ภายในกรอบวงรี เช่น “0720” หมายถึง ยางเส้นดังกล่าวถูกผลิตในช่วงสัปดาห์ที่ 7 ของปี 2020 นั่นเอง
สรุปตัวเลขบนยางรถยนต์นั้นมีความหมายในการบอกคุณลักษณะต่างๆ ของยาง เพื่อให้ผู้ใช้งานนั้นได้รู้ถึงรายละเอียดการใช้งานและขีดจำกัดของยางเส้นนั้นๆ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรทำความเข้าใจ และศึกษาอย่างละเอียด เพื่อจะได้สามารถเลือกยากที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรถของเราได้มากที่สุด