ใช้รถต้องรู้! 3 วิธีแก้ปัญหาโคมไฟหน้าเหลืองให้กลับมาใสเหมือนเดิม?
สาเหตุที่โคมไฟหน้ารถยนต์กลายเป็นสีเหลือง
จากไฟหน้าที่ขาวสะอาด กลายมาเป็นปัญหาไฟหน้าเหลือง ขุ่นมัว ไม่สดใส จนสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้รถ ปัญหาเหล่านี้เกิดจากสาเหตุหลายประการ ซึ่งผู้ใช้สามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้
การขับรถตอนกลางคืนอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โคมไฟหน้ารถยนต์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื่องด้วยการใช้รถในตอนกลางคืนนั้น จำเป็นต้องใช้ไฟหน้ารถ ซึ่งการเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลา จะส่งผลให้ความร้อนจากหลอดไฟเปลี่ยนสภาพโมเลกุลของอะคริลิกซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโคมไฟหน้ารถ จนทำให้โคมไฟค่อยๆ แปรสภาพเป็นสีเหลือง
ระเหยเป็นไอเกาะโคมหน้ารถ ในช่วงกลางวัน การขับรถสัญจรไปตามที่ต่างๆ รถยนต์ของคุณอาจจะเจอกับละอองน้ำมันบนถนนที่เกิดการระเหยเป็นไอแล้วมาเกาะที่บริเวณโคมไฟหน้ารถยนต์ ทำให้ในช่วงกลางคืนเมื่อคุณใช้รถโดยการเปิดไฟหน้า ความร้อนของหลอดไฟก็จะทำให้ไอที่มาเกาะนั้นกลายเป็นคราบ ส่งผลให้เกิดความขุ่นมัวจนเป็นคราบเหลือง
ความชื้นสามารถเข้าไปเกาะอยู่ในตัวโคมไฟหน้ารถยนต์ได้ เนื่องจากสภาพความเสื่อมของซีลยางบริเวณรอบนอก แม้แต่เพียงรอยรั่วเล็กๆ ก็ทำให้ความชื้นเล็ดรอดเข้าไปได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดเป็นคราบเหลืองด้านใน ซึ่งผู้ใช้รถยนต์ไม่สามารถขัดถูจากภายนอกได้
การจอดรถไว้กลางแจ้งท่ามกลางสภาพแดดจัด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โคมไฟหน้ารถแปรสภาพจากขาวใสเป็นขุ่นมัว เนื่องด้วยความร้อนที่มาสัมผัสกับพื้นผิวอะคริลิกของโคมไฟหน้ารถโดยตรง
การใช้รถยนต์บนท้องถนนในทุกๆ วัน ผู้ใช้รถอาจจะเจอกับรถยนต์คันหน้าที่ปล่อยควันดำหรือเขม่าออกมาจากท่อ ก่อให้เกิดการเกาะตัวของคราบหรือมลพิษต่างๆ บนโคมไฟหน้ารถยนต์ เมื่อสะสมเป็นเวลานานก็กลายเป็นคราบเหลืองในที่สุด
สาเหตุต่างๆ อาจจะมาจากกิจวัตรการใช้รถยนต์ของผู้ใช้รถที่แตกต่าง ซึ่งคุณสามารถใช้ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการบอกได้ว่า เพราะเหตุใด โคมไฟหน้ารถยนต์ของคุณจึงเกิดอาการเหลืองและขุ่นมัว
วิธีแก้ปัญหาไฟหน้าเหลืองทำอย่างไร?
1.ใช้น้ำยาขัดโคมไฟหน้า
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ขัดโคมไฟหน้าให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นครีมขัดไฟหน้า, สเปรย์พ่นขัดไฟหน้า หรือแม้กระทั่งกาพ่นไอน้ำยาขัดไฟหน้า ซึ่งมีข้อดีอยู่ที่ราคาถูก เนื่องจากสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้ในราคาตั้งแต่หลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อยบาทเท่านั้น แต่ข้อเสียคือใช้งานได้ไม่นานก็จะกลับมาเหลืองใหม่ จำเป็นต้องใช้สารเคลือบไฟหน้าเพื่อชะลอการเหลืองลง และหากไฟหน้าเหลืองจากการแตกลายงาก็จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
2.เปลี่ยนฝาครอบไฟหน้าใหม่
การเปลี่ยนฝาครอบไฟหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยแทนที่จะต้องมาคอยขัดไฟหน้าอยู่บ่อยๆ ก็เปลี่ยนส่วนที่เป็นฝาครอบไฟหน้า (พลาสติกใส) ใหม่เสียเลย ซึ่งวิธีจะช่วยให้ไฟหน้ากลับมาใสปิ๊งได้ยาวนานกว่า เหมาะทั้งกรณีที่มีคราบเหลืองเกาะอยู่บนไฟหน้า และไฟหน้าเหลืองจากการแตกลายงา
แต่ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 2 พันบาทขึ้นไป ราคาอาจต่ำหรือสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาใช้ และจำเป็นต้องเข้ารับบริการจากอู่ที่ชำนาญการเท่านั้น เนื่องจากการเปลี่ยนฝาครอบจำเป็นต้องมีการแกะไฟหน้าออกแล้วซีลใหม่ หากซีลไม่ดีก็อาจทำให้เกิดความชื้นหรือมีน้ำเข้าไปขังได้
3.เปลี่ยนไฟหน้าใหม่ทั้งชุด
วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงน้อยที่สุดเช่นกัน เนื่องจากการเปลี่ยนไฟหน้าทั้งชุดสามารถทำได้ง่ายกว่าการรื้อโคมเดิมเป็นไหนๆ แถมยังได้ไฟหน้าใหม่กิ๊งที่สามารถใช้งานได้อีกยาวนาน แต่แนะนำให้เลือกซื้อไฟหน้าแท้จากผู้ผลิตเท่านั้น เนื่องจากไฟหน้าแบบเทียบมักมีคุณภาพต่ำกว่า เนื่องจากการกระจายแสงทำได้ไม่ดีเท่า อาจก่อให้เกิดอันตรายในการขับขี่ยามค่ำคืนได้
สรุปแล้วเลือกวิธีไหนดีที่สุด?
หากคุณต้องการประหยัดงบ สามารถเลือกใช้วิธีแรกด้วยการซื้อน้ำยามาทำเอง (หรือจะให้ร้านที่รับทำโดยเฉพาะก็ไม่กี่ร้อยบาท) วิธีนี้จะช่วยให้ไฟหน้ากลับมาเหมือนใหม่โดยไม่ต้องเปลี่ยนโคมไฟ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไฟหน้าอาจกลับมาเหลืองได้ทุกเมื่อ
แต่หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา ก็แนะนำให้เปลี่ยนทั้งโคมไปเลย ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับรถที่ไฟหน้าเหลืองจากการแตกลายงาด้วย จะช่วยให้ไฟหน้าดูสดใสได้อีกยาวนานแน่นอน แต่หากไฟหน้าแบบแท้มีราคาสูงเกินงบประมาณแล้วล่ะก็ แนะนำให้ใช้วิธีเปลี่ยนเฉพาะฝาครอบไฟหน้า จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยที่คุณก็ยังได้ใช้ไฟหน้าแท้เดิมติดรถ เพียงแต่ต้องหาร้านที่มีฝีมือจริงๆ เท่านั้น จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง