ใช้รถต้องรู้! แนะนำ 7 รถยนต์มือสองที่ไม่ควรซื้อเป็นรถคันแรก
1.รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่
แม้ว่าราคารถมือสองจะทำให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของรถรุ่นใหญ่ได้ง่ายขึ้น แต่หากคุณซื้อเป็นรถคันแรกเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ควรเลือกรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กตั้งแต่ 1.5 ลิตรลงมา หรือมากสุดไม่ควรเกิน 1.8 ลิตร เพราะยิ่งเครื่องยนต์มีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเปลืองน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบควรเลี่ยงให้ไกลถ้าไม่อยากให้กระเป๋าฉีกเพราะค่าน้ำมัน แม้ว่าราคาค่าตัวจะถูกจนน่าซื้อก็ตาม
2.รถนอกกระแส
ถ้าหากคุณซื้อรถคันแรกเป็นรถมือสอง ควรเลือกรถตลาดยอดนิยมจะดีกว่า เพราะถ้าคิดจะซื้อรถนอกกระแสเพราะคิดว่าราคาถูกกว่าและไม่เกร่อแล้วล่ะก็ อนาคตอาจจะต้องผิดหวังในเรื่องของการซ่อมบำรุง เพราะต้องเจอปัญหาอะไหล่หายาก ซ่อมแพง อู่ซ่อมไม่จบ (เพราะช่างไม่เชี่ยวชาญ) อะไหล่บางชิ้นอาจต้องรอสั่งจากต่างประเทศนานหลายเดือน ทำเสียงานเสียการกันเปล่าๆ และเมื่อต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่ ก็จะต้องเผชิญกับปัญหารถติดมือ ขายยาก บางเต๊นท์อาจถึงขั้นไม่รับซื้อ หรือไม่ก็โดนกดราคาจนแทบไม่เหลือมูลค่าเลยก็มี
3.รถที่มีออปชันเยอะเกินไป
แม้ว่ารถที่มีออปชันมากกว่า จะช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีกว่า แต่หากถึงเวลาจำเป็นต้องซ่อมแล้วล่ะก็ คุณจะต้องเจอกับค่าซ่อมที่แพงกว่าด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เบาะไฟฟ้าแสนหรูที่อาจเกิดความเสียหายกับเฟืองและมอเตอร์ในอนาคต แต่เบาะธรรมดาสามารถใช้งานไปได้เรื่อยๆ อย่างไม่มีวันพัง
4.รถติดแก๊ส LPG/NGV
แม้ว่าการติดตั้งแก๊ส LPG จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันไปได้มาก (ส่วน CNG ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบัน) แต่ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการซื้อรถมือสองที่ติดตั้งแก๊สมาจากเจ้าของเดิม เนื่องจากรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สย่อมต้องการการบำรุงรักษามากกว่ารถน้ำมันปกติ หากเจ้าของเดิมซ่อมไม่ถึง ซ่อมแค่ขอไปที คนที่ซื้อไปใช้ต่ออาจต้องเจอกับปัญหาที่น่าปวดหัวตามมาอีกมากมาย
แม้แต่รถที่เคยติดแก๊สแต่ถอดออกแล้วก็ไม่ควรซื้อมาใช้เช่นกัน เพราะเครื่องยนต์มักอยู่ในสภาพโทรม มีร่องรอยการเจาะชิ้นส่วนตัวถัง ซึ่งอาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ ทางที่ดีถ้าอยากขับรถติดแก๊สแล้วล่ะก็ ควรเลือกรถที่ไม่เคยติดตั้งแก๊สมาก่อน นำมาติดตั้งเองกับอู่ที่ไว้ใจได้จะดีกว่า
5.รถที่เคยผ่านการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาแล้ว
กรณีซื้อรถคันแรกเป็นรถมือสอง ควรหลีกเลี่ยงรถที่ผ่านการเปลี่ยนเครื่องยนต์มา (เว้นแต่รถบางรุ่นที่มีการเคลมเครื่องยนต์จากศูนย์อันนั้นว่ากันอีกเรื่อง) เพราะส่วนมากแล้วเจ้าของเดิมมักใช้งานจนช้ำ ขาดการซ่อมบำรุงอย่างเหมาะสม ชนิดที่ว่ายอมกัดฟันเปลี่ยนเครื่องบล็อกใหม่ถูกกว่าการไล่ซ่อมทีละจุด รถแบบนี้ไม่ควรรับมาใช้งานต่อ เพราะอาจเกิดปัญหาจุกจิกตามมาในภายหลังได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ไม่ชำนาญการดูแลรักษาเครื่องยนต์เท่าไหร่นัก
ยิ่งถ้าเป็นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ข้ามสายพันธุ์ เช่น กระบะดีเซลแต่เปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์เบนซิน หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ข้ามยี่ห้อ แบบนี้ก็ไม่ควรซื้อมาใช้งานเช่นกัน เพราะส่วนมากแล้วการเปลี่ยนเครื่องยนต์ข้ามสายพันธุ์มักจะทำกันในหมู่ขาซิ่งที่ชอบความแรงเสียเป็นส่วนใหญ่ รถจึงมักอยู่ในสภาพช้ำ ยิ่งถ้าช่างวางเครื่องไม่สมบูรณ์แล้วล่ะก็ รับรองปัญหาปวดหัวจะตามมาอีกเพียบเป็นแน่
6.รถที่เคยทำสีทั้งคัน - เปลี่ยนสี
รถมือสองที่ผ่านการเก็บสีจำพวกรอยขีดข่วน รอยบุบขนาดเล็ก ฯลฯ แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติไม่น่ากังวล แต่หากรถผ่านการอาบสีมาทั้งคัน หรือเปลี่ยนสีผิดไปจากที่ผู้ผลิตเคยวางจำหน่าย แบบนี้ควรเลี่ยงไปเลยจะดีกว่า เพราะส่วนมากรถจะเคยผ่านการชนหนักหรือพลิกคว่ำมาจนถึงขั้นต้องทำสีทั้งคัน ทางที่ดีควรเลือกสีเดิมๆ จากโรงงานจะดีที่สุด
7.รถที่เล่มคู่มือจดทะเบียนสูญหาย
เล่มคู่มือจดทะเบียน (เล่มสีฟ้า) หน้า 18 จะระบุรายละเอียดต่างๆ ของตัวรถที่เคยผ่านการดำเนินการกับขนส่งฯ เช่น การโอนกรรมสิทธิ์, การแจ้งหยุดใช้รถ, การติดตั้งระบบแก๊ส, การแก้ไขดัดแปลงกรณีเกิดอุบัติเหตุ, การแก้ไขดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบ และอื่นๆ อีกมากมาย หากว่าเล่มเกิดการสูญหายแล้วถูกขอออกใหม่ จะทำให้ประวัติเหล่านี้หายไป ยากต่อการตรวจสอบที่มาของตัวรถนั่นเอง
หากเป็นเล่มใหม่แทนเล่มเดิมที่มีการสูญหาย ขนส่งฯ จะประทับคำว่า "ออกแทนเล่มสูญหาย" บนหน้ารายการจดทะเบียน แต่หากเป็นตราประทับคำว่า "ออกแทนเล่มเต็ม" ก็จะเป็นการออกเล่มใหม่ทดแทนเล่มเดิมเช่นกัน แต่จะเกิดจากรายการเสียภาษีเต็ม เกิดขึ้นได้กับรถอายุเกิน 17-18 ปีขึ้นไป กรณีนี้ให้ตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ ประกอบการพิจารณาเลือกซื้อแทน