ตลาดรถป้ายเเดงร่วงหนัก "โตโยต้า" เผยตลาดรถยนต์ไตรมาส 1 หดตัวกว่า 24.6%

30 เมษายน 2567

โตโยต้า ประเทศ ไทย เผยรายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2567 โดยระบุว่าตลาดรถยนต์ไตรมาสที่ 1 มียอดจำหน่ายรวมทุกเซกเมนต์เพียง 163,756 คัน ลดลง 24.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ตลาดรถป้ายเเดงร่วงหนัก "โตโยต้า" เผยตลาดรถยนต์ไตรมาส 1 หดตัวกว่า 24.6%  

ตลาดรถป้ายเเดงร่วงหนัก \"โตโยต้า\" เผยตลาดรถยนต์ไตรมาส 1 หดตัวกว่า 24.6%

โตโยต้าชี้จับตลาดรถไฮบริดหลังยอดขายเดือนมีนาคมยอดพุ่งเกือบ 70% สวนทางตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกหดตัว 24.6% ขายที่ 163,756 คัน ชี้เป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว-สินเชื่อเข้ม 
 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม ปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดขายโดยทั้งสิ้น 56,099 คัน ลดลง 29.8% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 22,342 คัน ลดลง 25.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 33,757 คัน ลดลง 32.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 19,648 คัน ลดลง 45.5%

ตลาดรถป้ายเเดงร่วงหนัก \"โตโยต้า\" เผยตลาดรถยนต์ไตรมาส 1 หดตัวกว่า 24.6%

 

สำหรับยอดขายที่ลดลงเป็นผลมาจากการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

โดยจะเห็นว่าในส่วนของตลาดรถยนต์ไฮบริด (HEV) มียอดขายเพิ่มขึ้น 68.9% หรือมียอดที่ 12,689 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้รถยนต์ในกลุ่ม xEV ของเดือนมีนาคมเติบโตขึ้น 19.5% 

 

 

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV ลดลง 25.6% มียอดขายที่ 5,167 คัน ส่วนรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ลดลง 27.1% มียอดขาย 897 คัน

ส่วนตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่จองในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์

ส่วนยอดขายรถยนต์สะสมในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) พบว่ามีปริมาณการขาย 163,756 คัน ลดลง 24.6% แบ่งเป็นโตโยต้า 58,810 คัน ลดลง 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%, ฮอนด้า 25,104 คัน ลดลง 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 15.3%, อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%

รถยนต์นั่งมียอดขาย 65,615 คัน ลดลง 15.4% แบ่งเป็นโตโยต้า 16,631 คัน ลดลง 40.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.3%, ฮอนด้า 14,198 คัน ลดลง 20.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%, มิตซูบิชิ 4,954 คัน ลดลง 5.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.6%

รถเพื่อการพาณิชย์มียอดขาย 98,141 คัน ลดลง 29.7% แบ่งเป็นโตโยต้า 42,179คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 43%, อีซูซุ 24,444 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 24.9%, ฮอนด้า 10,906 คัน เพิ่มขึ้น 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.1% ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pickup และรถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 56,425 คัน ลดลง 44.4% แบ่งเป็นโตโยต้า 25,248 คัน ลดลง 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%, อีซูซุ 21,481 คัน ลดลง 50.6% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%, ฟอร์ด 5,931 คัน ลดลง 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%

สถิติยอดขายรถใหม่เดือนมีนาคม 2567

ยอดขายรวมทุกเซกเมนต์เดือนมีนาคม 2567

  1. TOYOTA - 21,582 คัน
  2. ISUZU - 8,861 คัน
  3. HONDA - 8,219 คัน
  4. MITSUBISHI - 3,012 คัน
  5. FORD - 1,745 คัน
  6. MG - 1,707 คัน
  7. BYD - 1,132 คัน
  8. SUZUKI - 1,004 คัน
  9. NISSAN - 927 คัน
  10. MAZDA - 924 คัน
  11. ยอดขายรถยนต์นั่งเดือนมีนาคม 2567
  12. TOYOTA - 6,606 คัน
  13. HONDA - 6,869 คัน
  14. MITSUBISHI - 2,039 คัน
  15. MG - 1,393 คัน
  16. SUZUKI - 932 คัน
  17. BYD - 891 คัน
  18. MAZDA - 500 คัน
  19. NISSAN - 385 คัน
  20. NETA - 376 คัน
  21. GWM - 345 คัน

ยอดขายรถกระบะเดือนมีนาคม 2567

  1. TOYOTA - 7,367 คัน
  2. ISUZU - 6,705 คัน
  3. FORD - 1,062 คัน
  4. MITSUBISHI - 674 คัน
  5. NISSAN - 291 คัน
  6. MAZDA - 80 คัน
  7. MG - 33 คัน

ยอดขายรถอเนกประสงค์ดัดแปลง (PPV) เดือนมีนาคม 2567

  1. TOYOTA - 1,262 คัน
  2. ISUZU - 1,160 คัน
  3. FORD - 682 คัน
  4. MITSUBISHI - 298 คัน
  5. NISSAN - 34 คัน

โดย โตโยต้าระบุเพิ่มเติมว่าในเดือนเมษายนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น อันเป็นผลจากกระแสการท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และรวมถึงการเริ่มส่งมอบรถใหม่ที่จองในงาน Bangkok International Motor Show 2024 เป็นปัจจัยบวกและเริ่มส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์