เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคผิวหนัง ฝุ่น PM 2.5
อย่างไรก็ตาม สมุนไพรหลายชนิดมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าสามารถใช้ป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจในภาวะมลพิษได้ เช่นเดียวกับอาการทางผิวหนังรูปแบบต่าง ๆ อย่าง ผื่น ลมพิษ ฯลฯ ที่เกิดจากฝุ่น
สมุนไพรป้องกันทางเดินหายใจ-ผิวหนัง
สำหรับป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจในช่วง PM 2.5 นั้น สามารถใช้สมุนไพร เช่น หญ้าดอกขาว, รางจืด, มะขามป้อม, ขมิ้นชัน เช่นเดียวกับอาหาร-เครื่องดื่มที่ปรุงจากขิง และบร็อคโคลี่ รวมไปถึงรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พืชผักผลไม้หลากสี
ส่วนอาการทางผิวหนังมักจะมีสาเหตุที่มาจากการแพ้ฝุ่น อาการผด ผื่น คัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต้านการอักเสบของผิวหนัง ช่วยฆ่าเชื้อโรค เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง เช่น ว่านหางจระเข้ บัวบก โลชั่นพญายอ
ด้านอาการผิวหนังอักเสบ ลมพิษ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู และขี้ผึ้งพญายอ หากผิวแห้งใช้โลชั่นที่มีส่วนประกอบของว่านหางจระเข้ บัวบก ขมิ้นชัน
อาการผิวหนังอักเสบ ลมพิษ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู และขี้ผึ้งพญายอ หากผิวแห้งใช้โลชั่นที่มีส่วนประกอบของว่านหางจระเข้ บัวบก ขมิ้นชัน ที่สำคัญไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
แนะผู้มีโรคประจำตัวจะใช้งานต้องระวัง
สำหรับการใช้งานนั้น ดร.ภญ.ดวงแก้ว ปัญญาภู รองผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบายว่า ชาหญ้าดอกขาวดื่มหลังอาหารวันละ 3-4 ครั้ง เมื่อมีอาการระคายเคืองทางเดินหายใจจากภาวะฝุ่น PM 2.5 แต่มีข้อควรระวังเนื่องจากในหญ้าดอกขาวมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไตต้องใช้อย่างระวัง
รางจืด โดดเด่นเรื่องการแก้พิษ ล้างพิษ สามารถนำมาใช้ได้ 2-3 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร ทั้งนี้ ผู้ป่วย ตับ ไต ควรใช้อย่างระมัดระวัง
ส่วนมะขามป้อมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบ การระคายเคือง บรรเทาอาการไอ รับประทานได้ทั้งแบบผลสด ผลแห้ง และชาชงขมิ้นชัน มีสารเคอร์คิวมิน สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ ระบบทางเดินหายใจ โดยรับประทานขมิ้นชันในช่วงที่มีมลพิษทางอากาศได้ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3-4 ครั้ง แต่ต้องไม่เกิน 9 กรัม/วัน และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย หรือการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค สามารถติดต่อที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2149-5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph และ line @DTAM