กิน "บรอกโคลี" ดียังไง ประโยชน์ 14 ข้อ ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย

01 กุมภาพันธ์ 2567

กินบรอคโคลีแล้วดียังไง ทางสายกินเผยประโยชน์ 14 ข้อ บรอกโคลี ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย บำรุงทั้งภายนอกและภายใน

เคยได้ยินกันใช่ไหมว่ากินผักแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งบรอกโคลี ก็เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่เราได้ยินมาตลอดว่าดีมาก มีประโยชน์เป็นผักที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ แล้วเคยตั้งคำถามกันไหมว่ามันดีอย่างไร วันนี้ทางสายกินมาไขคำตอบให้กับทุกคนแล้ว 14 ประโยชน์ของบรอกโคลี ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย

 

กิน บรอกโคลี ดียังไง ประโยชน์ 14 ข้อ ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย
 

กิน บรอกโคลี ดียังไง ประโยชน์ 14 ข้อ ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย

 

1. สารต้านอนุมูลอิสระสูง

ในบรอกโคลีมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดด้วยกัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหลัก ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยลดการเสื่อมของเซลล์  และช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

2. ช่วยระบบขับถ่าย

ขึ้นชื่อว่าผักก็ย่อมต้องมีกากใยอาหาร ที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของลำไส้ ช่วยในการขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก ลองกินบรอกโคลีเข้าไปปัญหาเหล่านี้ก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดี

3. ดีต่อสายตา

สารบำรุงสายตาอย่างลูทีนและซีแซนทีนก็มีอยู่ในบรอกโคลีค่อนข้างสูง ดังนั้นใครอยากมีสายตาแจ่มใส แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคตาต่าง ๆ และกำลังมองหาอาหารบำรุงสายตาไปในตัว จัดบรอกโคลีเพิ่มไปในมื้ออาหารได้เลย

4. ช่วยให้ดูเด็ก

ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีที่มีอยู่ในบรอกโคลี ก็ช่วยการันตีได้ว่ากินบรอกโคลีเข้าไปแล้วจะได้สารบำรุงเซลล์ บำรุงผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้งไฟเบอร์ในบรอกโคลียังช่วยในการขับถ่าย กำจัดของเสียออกจากร่างกาย เพิ่มความผ่องใสให้ผิวพรรณ

กิน บรอกโคลี ดียังไง ประโยชน์ 14 ข้อ ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย

 

5. บำรุงกระดูก และฟัน

แคลเซียม วิตามินซี และวิตามินเคในบรอกโคลีมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน อีกทั้งสารอาหารอื่น ๆ ในบรอกโคลี เช่น วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และสังกะสี ยังเป็นสารอาหารสำคัญของกระดูกด้วยนะ

6. ดีต่อแม่ท้อง

บรอกโคลีเป็นผักที่มีสารอาหารค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสารโฟเลต ที่ดีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะเป็นสารที่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของสมองและเส้นประสาท ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ควรกินบรอกโคลีเป็นประจำเพื่อเสริมโฟเลตให้ร่างกาย

7. ขับสารพิษ

นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล คณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยว่า สารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane)ที่มีอยู่มากในบรอกโคลีมีส่วนช่วยให้ตับและเซลล์เยื่อบุสลายสารพิษได้ดีขึ้น โดยสารดังกล่าวจะช่วยเปลี่ยนสารละลายไขมันให้ละลายน้ำ แล้วขับออกทางน้ำดีและปัสสาวะ ดังนั้นหากอยากขับสารพิษในร่างกาย แนะนำให้กินบรอกโคลีเพิ่มเข้าไป อ้อ ! แต่สารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane)จะอยู่ในบรอกโคลีสดเท่านั้น เพราะผ่านความร้อนแล้วสารตัวนี้จะหายไป ฉะนั้นควรกินแบบน้ำบรอกโคลีสดจะดีกว่า

8. ป้องกันแสง UV และโรคมะเร็งผิวหนัง

ดร.พอล ทาลาเลย์ จากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ได้ศึกษาการใช้สารสกัดจากเมล็ดบรอกโคลีกับการรักษาผิวที่แดงจากรังสี UV ซึ่งจากการทดลองพบว่า สารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) ในเมล็ดบรอกโคลีสามารถลดความแดงของผิวได้ดีกว่าผิวที่ไม่ได้ทาสารสกัดจากบรอกโคลีมากถึง 1 ใน 3 โดยสารสกัดจากบรอกโคลีจะช่วยให้เซลล์ผิวต่อสู้กับผลกระทบจากรังสี UV ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สารสกัดจากเมล็ดบรอกโคลีสามารถป้องกันผิวจากรังสี UV ได้ โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังด้วย

 9. ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

ข้อมูลจาก Department of Internal Medicine and Nutritional Sciences Program of the University of Kentucky เผยว่า ไฟเบอร์ในบรอกโคลีก็มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้ หากกินบรอกโคลีและอาหารที่มีกากใยสูงเป็นประจำ

10. บรรเทาอาการปอดอักเสบ

งานวิจัยชิ้นเล็ก ๆ ที่ Healthline ได้นำเสนอ รายงานผลการศึกษาจากผู้ที่สูบบุหรี่จัด ๆ ว่า การกินบรอกโคลีให้มากขึ้นมีส่วนช่วยลดภาวะปอดเป็นจุด หรือภาวะปอดอักเสบในคนที่สูบบุหรี่ได้ แต่ทั้งนี้คงต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต

11. ลดน้ำตาลในเลือด

การศึกษาจากศูนย์โรคเบาหวาน มหาวิทยาลัยลุนด์ ประเทสสวีเดน พบว่า ในบรอกโคลีมีสารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 และในโรคอ้วนได้ อ้างอิงจากการวิจัยในคนหลาย ๆ ครั้ง แต่อย่างไรก็ดี ยังคงต้องมีการวิจัยในขั้นลึก ๆ ขึ้นไป เผื่อหาทางสกัดสารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) จากบรอกโคลีออกมาในรูปแบบยาหรืออาหารเสริม เนื่องจากหากหวังผลในการกินบรอกโคลีเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จำเป็นต้องกินบรอกโคลีมากถึง 5 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งในทางปฏิบัติคงทำได้ยาก

12. บำรุงหัวใจ

การศึกษาชิ้นหนึ่งเผยว่า การกินผงสกัดจากหน่อบรอกโคลีมีส่วนช่วยลดระดับไขมันไม่ดี อย่าง ไขมัน LDL และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกายได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอีกหนึ่งการทดลองเชื่อว่า สารต้านอนุมูลอิสระชนิดที่มีอยู่ในบรอกโคลี มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจไปพร้อม ๆ กัน

13. ชะลอการเกิดโรคทางจิตเวช และช่วยบำรุงการทำงานของสมอง

การศึกษาที่ทดลองกับผู้สูงอายุจำนวน 960 คน เผยว่า การกินผักสีเขียวเข้ม 1 มื้อเป็นประจำ มีส่วนช่วยชะลอการเกิดโรคจิตเวชที่มักจะมาพร้อมกับวัยได้ นอกจากนี้สารซัลเฟอร์ราเฟน ในบรอกโคลียังมีส่วนช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง ลดโอกาสเกิดภาวะสโตรก ได้ด้วย

14. ป้องกันมะเร็ง

สารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) ในบรอกโคลีไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่จากการศึกษายังพบว่าเจ้าสารตัวนี้มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยสารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) จะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ HDAC (Histone deacetylase) เอนไซม์ที่มีส่วนในการพัฒนาเซลล์มะเร็งร้าย ให้หยุดการทำงาน ลดความเสี่ยงเซลล์มะเร็งลุกลามในร่างกาย นอกจากนี้สารซัลเฟอร์ราเฟน (Sulforaphane) ยังช่วยจัดการแบคทีเรีย  อันเป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ด้วย

 

กิน บรอกโคลี ดียังไง ประโยชน์ 14 ข้อ ผักสีเขียวขจีกินแล้วดีต่อร่างกาย