จากกรณีเว็บไซต์อาหาร TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูลด้านอาหารจากทั่วโลก ได้จัดอันดับอาหารยอดแย่ ซึ่ง"แกงไตปลา" ของดีปักษ์ใต้ที่โดนโหวตให้เป็นเมนูอาหารยอดแย่อันดับ 1 ของโลก ทำเอาสาวนุ้ยและพี่บ่าวถึงกับลุกเป็นไฟ ไม่รู้จักของดีกันซะแล้ว
ในแกงไตปลามีนั้นอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบและสมุนไพรไทยมากประโยชน์ แถมรสชาติเผ็ดถึงเครื่อง อร่อยแบบแกงใต้แท้ๆก็ยังครองใจคนไทยทั่วทุกภาค ตักราดข้าวหรือกินกับขนมจีนก็ฟินเกินบรรยาย วันนี้ ทางทำกิน ขอแยกส่วนประกอบของแกงไตปลาที่อัดแน่นด้วยสรรพคุณดีๆต่อร่างกาย เห็นแบบนี้คงต้องถามแล้วว่า "แกงไตปลา" แย่ตรงไหน
ส่วนประกอบแกงไตปลาและประโยชน์ที่มีต่อร่างกาย
- ไตปลา ได้โปรตีนและแคลเซียมจากปลา
- ขมิ้นชัน รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลม แก้ท้องอืด
- ข่า แก้อาการท้องอืด แก้ลมพิษ
- พริกขี้หนู เสริมภูมิต้านทาน เพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย
- กระเทียม ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ
- มะเขือเปราะ รักษาโรคเบาหวาน
- ฟักทอง บำรุงผิวพรรณ ควบคุมน้ำหนัก อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน มีวิตามินเอและอี ช่วยระบบขับถ่าย
- ตะไคร้ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปวดท้อง
- ใบมะกรูด ช่วยแก้ แก้อาการช้ำใน มีเบต้าแคโรทีน ชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
- หน่อไม้ดอง ลดอาการท้องผูก ช่วยลดความกระหายน้ำ ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้
สำหรับแกงไตปลา หรือ แกงพุงปลา เป็นแกงใต้ที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีทั้งแบบที่ใสและไม่ใส่กะทิ แบบใส่กะทิเป็นที่นิยมในบางท้องที่ เช่นที่จังหวัดยะลา การแกงจะต้มกะทิแค่พอสุก ไม่แตกมัน น้ำพริกแกงประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง เกลือ พริกไทยเม็ด ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิ้น หอมแดง กะปิ
ไตปลา หรือ พุงปลา เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองชนิดหนึ่ง โดยใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาลัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือปลาอื่น ๆ มาหมักกับเกลือ โดยนำขี้และดีออกจากกระเพาะก่อน หมักไว้ 10 – 30 วันก็ใช้ได้ นำมาทำอาหารได้หลากหลายทั้งแกง น้ำจิ้มคล้ายน้ำพริก ไตปลาแห้ง หรือพุงปลาแห้ง