เคล็ดลับต้มข้าวโพดหวาน อร่อยเต่งตึง พร้อม 8 สุดยอดประโยชน์

18 มิถุนายน 2567

ทางทำกินรวม 8 สุดยอดประโยชน์ของ "ข้าวโพดหวาน" พร้อมเคล็ดลับการต้มข้าวโพดให้อร่อยเต่งตึง เม็ดไม่เหี่ยว ยิ่งกินยิ่งเพลิน

"ข้าวโพดหวาน" หวานๆเหลืองๆ กินเพลิน ทางทำกินรวม 8 ประโยชน์ของข้าวโพดหวาน ธัญพืชสีเหลือง ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด บำรุงร่างกายได้ทั้งภายนอกและภายใน แถมแก้ความเชื่อผิดๆที่หลายๆคนเคยได้ยินเกี่ยวกับข้าวโพดหวานว่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น พร้อมเคล็ดลับต้มข้าวโพดให้อร่อยพอดี

 

เคล็ดลับต้มข้าวโพดหวาน อร่อยเต่งตึง พร้อม 8 สุดยอดประโยชน์

เคล็ดลับต้มข้าวโพดหวาน อร่อยเต่งตึง พร้อม 8 สุดยอดประโยชน์

 

1. ให้พลังงาน จากที่ข้าวโพดหวานมีคาร์โบไฮเดรตสูงหรือที่บางคนเรียกง่ายๆ ว่า แป้งเยอะจึงทำให้ข้าวโพดหวานสามารถเป็นแหล่งพลังงานที่ดีให้กับร่างกายของเรา ดังนั้นคนที่ต้องการพลังงานสูงจะเหมาะมากหากนำข้าวโพดหวานไปเป็นส่วนหนึ่งของอาหารในแต่ละวัน

2. บำรุงร่างกายด้วยวิตามิน ข้าวโพดหวานเป็นแหล่งของวิตามินหลายชนิดค่ะ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 5 และวิตามินบี 6 เป็นต้น ซึ่งวิตามินเหล่านี้เป็นสารที่มีความสำคัญในกระบวนการทางชีวเคมีในร่างกายของเรา เพื่อส่งเสริมให้ระบบต่างๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ

3. มีส่วนช่วยส่งเสริมการหายของแผล ต้องบอกว่าข้าวโพดหวานมีวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ในร่างกายและสารต้านอนุมูลอิสระในข้าวโพดยังยังช่วยลดการอักเสบด้วย จากที่วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระทำงานร่วมกันจึงทำให้กระบวนการหายของแผลเกิดขึ้นได้ตามปกติและบาดแผลจึงสมานกันได้ดีขึ้น

4. สร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อในร่างกาย ข้าวโพดหวานเป็นธัญพืชชนิดหนึ่ง และธัญพืชมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบหลัก ดังนั้นพอกินข้าวโพดหวานจึงได้โปรตีนตามธรรมชาติที่ไปมีส่วนช่วยสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อในร่างกายของเรา

5. ทำให้ผิวสวย เนื่องจากว่าข้าวโพดหวานมีวิตามินอี และจากที่เรารู้ๆ กันมาว่าวิตามินอีช่วยชะลอความแก่ พอเรากินข้าวโพดหวานเราจึงได้ประโยชน์ในส่วนนี้ คือ ข้าวโพดหวานไปช่วยทำให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์

6. บำรุงสายตา หลายคนยังไม่รู้ว่าข้าวโพดหวานมีลูทีนที่ไปมีส่วนช่วยส่งเสริมสายตา การกินข้าวโพดจึงเป็นแนวทางที่ไปส่งเสริมให้สุขภาพตาดีขึ้น และชะลอกระบวนการเสื่อมตามธรรมชาติ

7. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ข้าวโพดหวานเป็นธัญพืชที่มีใยอาหารสูงแต่มีไขมันต่ำ พอกินข้าวโพดหวานก็เป็นการกินอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ข้าวโพดหวานไม่ได้ไปทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

8. ส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานได้ดีขึ้น จากที่เรารู้มาว่าข้าวโพดหวานมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีนั้น จึงทำให้การกินข้าวโพดหวานมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เคล็ดลับต้มข้าวโพดหวาน อร่อยเต่งตึง พร้อม 8 สุดยอดประโยชน์

 

เคล็ดลับต้มข้าวโพดให้อร่อยพอดี เต่งตึงไม่เหี่ยวไม่เละ

- เตรียมข้าวโพด ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย

- ตั้งน้ำบนเตาจนเดือดแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นใส่เกลือเล็กน้อยเพิ่มความกลมกล่อม

- นำข้าวโพดลงไปต้ม คอยดูให้ข้าวโพดจมลงใต้น้ำทุกฝัก ปิดฝาหม้อต้มไว้ประมาณ 10 นาที

- เตรียมน้ำเย็นในชามที่พอใส่ข้าวโพดทั้งฝัก

- หลังต้มข้าวโพดครบเวลาให้นำมาจุ่มน้ำในเย็นเพื่อน็อกคงความเต่งตึง เม็ดข้าวโพดจะได้ไม่เหี่ยว