โรคที่เกิดจาก "ชานมไข่มุก" และ กินชานมไข่มุกอย่างไร ให้ปลอดโรค

21 มิถุนายน 2567

รวมโรคที่มากับ "ชานมไข่มุก" เครื่องดื่มแสนอร่อยสุดฮิต แต่มากไปก็ไม่ดีมีโรคตามมาเพียบ พร้อมแนะวิธีดื่มชานมไข่มุกอย่างไรให้ปลอดโรค

ชานมไข่มุก เครื่องดื่มสุดฮิตตลอดกาล ชอบกันมากทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ รู้ไหมดื่มมากไปก็ไม่ดี วันนี้ทางทำกินรวมเอาโรคที่เกิดจากชานมไข่มุก และ ดื่มชานมไข่มุกอย่างไรให้ปลอดโรค

 

โรคที่เกิดจาก ชานมไข่มุก และ กินชานมไข่มุกอย่างไร ให้ปลอดโรค

โรคที่เกิดจาก ชานมไข่มุก และ กินชานมไข่มุกอย่างไร ให้ปลอดโรค

 

โรคอ้วน

รับประทานวันละ 2 แก้วขึ้นไป ไขมันส่วนเกินที่ทำให้เกิดโรคอ้วนต้องเข้ามาแฝงตัวอยู่ในร่างกายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้! โดยชาไข่มุก 1 แก้วให้พลังงานถึง 240 – 360 กิโลแคลอรี ซึ่งหากรับประทานทุกวันก็ทำให้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ท้องผูก

ไข่มุกมีส่วนย่อยยาก จึงทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหา ส่งผลให้เกิดปัญหาการขับถ่าย ยิ่งใครที่ไม่ทานผักผลไม้ ก็ทำให้ท้องผูกได้

โรคเบาหวาน

ความหวานในชาไข่มุกถือเป็นหนึ่งในตัวการร้าย ที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน! โดยแป้งจากไข่มุกจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ซึ่งหากร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ก็มีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคเบาหวานได้

โรคหัวใจและหลอดเลือด

ส่วนผสมในชาไขมุก ไม่ว่าจะเป็น นม น้ำตาล รวมถึงครีมที่มีไขมันทรานส์ ถือเป็นสิ่งที่อันตรายต่อหัวใจ หากได้รับในปริมาณที่มาก ก็ส่งผลให้เข้าไปเพิ่มไขมันชนิดเลว
เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ และลดปริมาณไขมันดี ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

วิธีกินชานมไข่มุกอย่างไร ให้ปลอดโรค

1. เลือกแก้วขนาดที่เล็กที่สุด รับประทานชานมไข่มุกแค่พอประมาณ เพราะ ชาไข่มุกเป็นเครื่องดื่มแคลอรีสูง ไม่ใช่เป็นอาหารหลัก

2. ลดระดับความหวานให้ต่ำที่สุด ชานมไข่มุกรสชาติหวานปกติมักจะมีปริมาณน้ำตาลเยอะอยู่แล้ว ทำให้การบริโภคน้ำตาลในแต่ล่ะวันเกินกว่า 6 ช้อนชาได้ ดังนั้นควรลดระดับน้ำตาลที่ละขั้น จนถึงขั้นไม่หวานเลย จะยิ่งดี

3. ลดอาหาร ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก ควรลดปริมาณอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ในวันที่รับประทานชานมไข่มุก เพื่อไม่ให้ได้รับปริมาณน้ำตาล และไขมันเลว (LDL) จนมากเกินไป