ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "อาหาร" เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพ และเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำลายสุขภาพได้เช่นเดียวกัน แต่หากเรารู้จักเลือกกินให้ดี อาหารจะให้ประโยชน์และช่วยบำรุงร่างกายของเราให้แข็งแรง ป้องกันและต่อต้านโรคได้สารพัด วันนี้ทางทำกินมีข้อมูลดีๆมาฝาก 20 อาหารล้างพิษ กินให้ดีเพื่อร่างกายของเรา
20 อาหารล้างพิษ กินดีต้านโรค เสริมเกราะป้องกันร่างกายแข็งแรง
1. สาหร่าย
ช่วยดูดซึมคลื่นรังสีที่สะสมในร่างกาย สามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก
2. หัวหอม
ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ลดระดับ LDL ตัวการก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น รักษาโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคเบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่
3. มะนาว
เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอน ดื่มสัปดาห์ละ 1-2 วัน จะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น
4. เมล็ดแฟลกซ์
อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับ LDL นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วย
5. กระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยขจัดชื้อแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ
6. ทับทิม
สามารถรักษาอาการอักเสบ ลดการติดเชื้อ
7. พืชตระกูลถั่ว
(เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน วยลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยทำความสะอาดและลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ได้ดี มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
8. ขึ้นฉ่าย
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่ด้วย
9. แครอท
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษ (ระบบทางเดินประสาท สายตา และผิวหนัง) ลดการเกิดมะเร็ง ช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจแข็งแรงขึ้น
10. มะเขือพวง
สามารถช่วยดูดซึมและดักจับไขมันในอาหาร และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย และลดการสะสมของเสีย
11.ส้มโอ หรือเกรปฟรุต
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
12.กระเทียม
ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร ฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย
13.บลูเบอร์รี่
ช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้
14.กะหล่ำปลี
มีสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระ ช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ
15.บีทรูท:
ต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ตับ และระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากกการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีทรูทช่วยปรับระดับกรด – ด่างในเลือดให้สมดุลด้วย
16.อะโวคาโด
มีสารกลูตาไทโอน ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนักออกได้ง่ายขึ้น
17. ตำลึง
ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย
18. แอปเปิ้ล
ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิ้ลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และไมเกรนในผู้ใหญ่ได้
19. อัลมอนด์
เป็นถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมันแต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกายในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึงควรกินอัลมอนด์ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
20. กล้วย:
ช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย
ขอบคุณ Bangkok Hospital โรงพยาบาลกรุงเทพ