7 วิธีรักษาสิวผู้ชาย แบบตรงจุด เพื่อหน้าหล่อใสไร้สิว ปัญหาสิวของผู้ชายเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชายอย่างแอนโดรเจน ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันในผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้น ทำให้หน้ามันง่าย แล้วถ้าความมันไปเจอกับสิ่งสกปรกบนผิวหน้าก็มีโอกาสทำให้อุดตันรูขุมขน จนกลายเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น ไลฟ์สไตล์บางอย่างของผู้ชาย เช่น การออกกำลังกายจนเหงื่อออก แต่ไม่ทำความสะอาดผิว ก็จะส่งผลให้เกิดสิว หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่กระตุ้นระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
7 วิธีรักษาสิวผู้ชาย แบบตรงจุด เพื่อหน้าหล่อใสไร้สิว เมื่อทราบแล้วว่าสาเหตุของสิวเกิดมาจากอะไร ก็ถึงเวลาที่เราต้องดูแลตัวเองด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. ล้างหน้าให้สะอาด
สิวมักเกิดจากสิ่งสกปรกในรูขุมขน เมื่อผสมกับเหงื่อและความมันก็จะอุดตันและอักเสบ ดังนั้นการล้างหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขน จากนั้นตามด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับผิว และถ้าเพิ่งผ่านกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่ออย่างการออกกำลังกาย หรืออยู่กลางแจ้ง ก็ควรล้างหน้าทันทีด้วย
2. สระผมบ่อย ๆ
สิ่งสกปรกมักเกาะอยู่ตามเส้นผมของหนุ่ม ๆ ซึ่งหลายคนไม่ชอบสระผม เมื่อเหงื่อไหลซึมผ่านเส้นผมก็มักทำให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นสัมผัสกับใบหน้า ส่งผลให้เกิดสิว ดังนั้นจึงควรสระผมให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เส้นผมเป็นตัวการของการเกิดสิว และควรสระผมก่อนล้างหน้า เพื่อที่จะให้โฟมล้างหน้าช่วยชะล้างสารเคมีจากแชมพูออกไปจากใบหน้าด้วย
3. เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
ไม่เพียงแต่ความมันเท่านั้นที่ทำให้เกิดสิว แต่ผิวแห้งก็ทำให้สิวอักเสบได้เช่นกัน เนื่องจากต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่อน้ำมันบนใบหน้าเยอะขึ้นก็เกิดสิวได้ง่าย ทางแก้คือต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วยการทาเซรั่มหรือครีม เมื่อผิวชุ่มชื้นก็จะไม่ผลิตน้ำมัน และทำให้ไม่เป็นสิวนั่นเอง
7 วิธีรักษาสิวผู้ชาย แบบตรงจุด เพื่อหน้าหล่อใสไร้สิว
4. อย่าแกะหรือบีบสิว
การแกะหรือบีบสิวจะเป็นการรบกวนผิวอย่างรุนแรง บางคนบีบสิวออกไม่หมด ทำให้สิวยังคงอุดตันอยู่ เกิดเป็นหนองอักเสบ อีกทั้งยังทำให้เกิดรอยแผลเป็น ซึ่งรักษายากกว่าสิวหลายเท่า
5. ทาครีมแต้มสิว
หากปล่อยให้สิวอยู่บนใบหน้านาน ๆ จากสิวธรรมดาอาจกลายเป็นสิวอักเสบได้ง่าย ๆ แถมยังอาจทิ้งรอยแดง รอยดำ ให้ช้ำใจอีก ทางที่ดีควรหาตัวช่วยสำคัญอย่างครีมแต้มสิว ที่ช่วยลดอาการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิว ลดรอยสิว และรอยแผลเป็น ไปในตัวอีกด้วย
6. สครับผิวหน้าสัปดาห์ละครั้ง
เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวและช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดล้ำลึกยิ่งขึ้น ควรหมั่นขัดผิวหน้าเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง โดยอาจใช้มือขัดเบา ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีสครับ แต่แนะนำว่าอย่าขัดแรงหรือใช้บ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองและอักเสบจนเกิดเป็นสิวได้
7. หลีกเลี่ยงแสงแดด
ใบหน้าที่มีสิวนั้นถือว่ามีความบอบบางอยู่แล้ว ยิ่งถ้าโดนรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี จากแสงแดดแรง ๆ ด้วยแล้ว จะยิ่งกระตุ้นสิวให้อักเสบมากขึ้นไปอีก แถมยังทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ และมีโอกาสเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ง่าย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง หรือควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA สูง ๆ รวมไปถึงอาจใส่หมวกหรือแว่นกันแดด เพื่อปกป้องผิวไม่ให้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง