"โรคภูมิแพ้" รู้ให้ทัน!! ดูแลรักษาได้

28 มิถุนายน 2566

หนึ่งในโรคยอดนิยมที่เป็นกันมากคือ โรคภูมิแพ้ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ไม่เพียงช่วยให้สังเกตอาการเบื้องต้นได้ ยังหมายถึงการดูแลป้องกันตนเองได้อย่างเหมาะสม

โรคยอดฮิตของคนไทย

ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น 3 – 4 เท่า หากเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลสถิติของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย พบว่า เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึงร้อยละ 38 และผู้ใหญ่เป็นโรคภูมิแพ้ประมาณร้อยละ 20 โดยสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจาก

. กรรมพันธุ์

. มลภาวะ

. สูบบุหรี่

. ขาดการออกกำลังกาย

. สภาพแวดล้อมภายในที่พักอาศัย เช่น เลี้ยงสัตว์ ปูพรม เครื่องปรับอากาศ เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและไรฝุ่นชั้นดี เป็นต้น

"โรคภูมิแพ้" รู้ให้ทัน!! ดูแลรักษาได้

ประเภทสารก่อภูมิแพ้ ประกอบด้วย 2 ประเภทหลักได้แก่
 1 สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร แมลงสาบ เชื้อรา ฯลฯ

 2 สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ

อาการบ่งบอกภูมิแพ้

. ผื่นคัน

. ลมพิษ

. น้ำมูก

. จาม

. คันจมูก

. คัดจมูก

. คันตา

. เคืองตา

. แสบตา

. น้ำตาไหลบ่อย

. ไอ

. หอบ

. แน่นหน้าอก

. หายไม่คล่อง

. หายใจแล้วมีเสียงวี้ด

นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการท้องเสีย อาเจียน น้ำหนักลด รวมทั้งมีภาวะซีดเกิดขึ้นด้วยได้เช่นกัน จึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตตนเองและพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

"โรคภูมิแพ้" รู้ให้ทัน!! ดูแลรักษาได้

ตรวจให้แน่ใจ

การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ย่อมช่วยให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการแพ้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเริ่มจากแพทย์ตรวจร่างกายและซักประวัติแบบละเอียด จากนั้นจะทำการตรวจเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เช่น ทดสอบทางผิวหนัง เจาะเลือดหาสาเหตุ เพื่อให้สามารถยืนยันสาเหตุการแพ้ได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม แม้ภูมิแพ้จะเป็นโรคเรื้อรัง แต่ถ้าหากรู้สาเหตุของการแพ้อย่างชัดเจนและพยายามหลีกเลี่ยง ตลอดจนหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ย่อมช่วยบรรเทาอาการที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

"โรคภูมิแพ้" รู้ให้ทัน!! ดูแลรักษาได้
ที่มา :  โรงพยาบาลกรุงเทพ