PM 2.5 ก็คืออนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร และหากนำไปเปรียบเทียบกับขนาดเส้นผมของเราที่มีขนาด 50-70 ไมโครเมตร ฝุ่นขนาดเล็กจิ๋วนี่มีขนาดเล็กกว่าขนาดเส้นผมถึง 20-30 เท่า
ความสำคัญของ PM 2.5
ปกติในทางเดินหายใจของเรามีขนพัดโบก (respiratory cilia) และมีการหลั่งน้ำมูก เสมหะ เพื่อดักจับไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ทางเดินหายใจ แต่ฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตรจะสามารถเล็ดรอดเข้าไปได้ถึงหลอดลมฝอยขนาดเล็ก (bronchiole) และหากมีขนาดเล็กกว่า 1 ไมโครเมตร ก็จะสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้
ดังนั้นหากสภาพอากาศมีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน คนกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างมากก็คือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรังโรคปอด และโรคหัวใจ เนื่องจากกระบวนการป้องกันของร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนที่มีสุขภาพแข็งแรง
ส่วนในคนที่มีสุขภาพแข็งแรงนั้น จากการศึกษาพบว่าหากสัมผัสกับอากาศที่มี PM 2.5 เกินมาตรฐานในระยะเวลานานมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิตด้วยโรคปอดและโรคหัวใจ (cardiopulmonary mortality) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดด้วย
วิธีป้องกัน
- งดกิจกรรมกลางแจ้ง และการออกกำลังกายกลางแจ้ง เนื่องจากการใช้แรงมากหรือการหายใจแรง อาจยิ่งเพิ่มการสูดเอาละอองฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ทางเดินหายใจและปอดมากขึ้น
- หากมีความจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง แนะนำให้สวมหน้ากาก
- หน้ากาก N 95 สามารถป้องกันอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 90-95%
- หน้ากาก PM 2.5 สามารถป้องกันอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 90%
- หน้ากากอนามัยทั่วไป (surgical mask) สามารถป้องกันอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 40 %
- หน้ากากอนามัยทั่วไป (surgical mask) และซ้อนกระดาษทิชชู 2 ชั้น สามารถป้องกันอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 90 %
ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท 3