ปัจจุบันเราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกในหลายๆด้าน ทำให้แนวโน้มธุรกิจ และอุตสาหกรรมโลก ดูเหมือนว่าทิศทางจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่ปี 2566 ครอบคลุมทั้งด้านความท้าทายและโอกาสเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งมีปัจจัยมาจาก ทั้งแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค เทรนด์โลก และปัจจัยภายในเฉพาะด้านของอุตสาหกรรมนั้นๆ ขณะกระแสตื่นตัวของทั่วโลกที่หันมาเน้นเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ก็ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างมาก
เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดย ฐานเศรษกิจ ได้รายงานว่า Baramizi Lab ศูนย์วิจัยเทรนด์ และ คอนเซปต์แห่งอนาคต ได้ประเมินถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเป็นตัวกำหนด การทรานฟอร์มธุรกิจ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ไว้ถึง 10 ข้อ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. BIODIVERSE WELL-LIVING สังคมเมืองและการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ระยะเวลาในที่พักอาศัยนานขึ้น และผู้คนโหยหาพื้นที่เยียวยาจิตใจ ส่งผลต่อการต่อยอดในอุตสาหกรรมสุขภาพร่วมด้วย
2. THE SERENEXURIOU ผู้คนโหยหาความเงียบสงบในชีวิตที่มีแต่ความเร่งรีบ ต้องการความนิ่ง สงบ สร้างสมดุลอย่างมีระดับ น่าจะมีผลต่อการออกแบบที่พักอาศัย
3. ALL-IN-HOME ประสบการณ์ของบ้านที่รองรับทุกมิติของการใช้ชีวิต
4. ACTIVE-AGING EXTENDED ปี 2050 1ใน5 ของประชากรโลกจะกลายเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ65 ปีขึ้นไป ทีอยู่อาศัยนับเป็นสิ่งแรกที่กลุ่มเป้าหมายเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุต้องคิดถึงเป็นอย่างแรก
5. R/O PHENOMENA ปรากฎการณ์ยอมรับที่จะเช่าแทนที่จะเป็นเจ้าของบ้านจากคนรุ่นใหม่ โดยพบว่า แนวโน้มของการเช่าคอนโดของกลุ่มวัยทำงาน (Millennials) เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะ ที่การค้นหาเพื่อซื้อคอนโดลดลงจาก 43% เหลือเพียง 31% เท่านั้น
6 . REAL ESTATE AS A SERVICE สร้าง Life-Long Customer ด้วยการทรานด์ฟอร์มธุรกิจโมเดล แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคมีความเฉพาะตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น สัญญาเช่าที่สั้นลงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
7.AI ASSISTANCE เพราะเราทุกคนต้องการผู้ช่วยมาทำเรื่องที่ต้องใช้เวลามากๆให้หายไปจากชีวิต ลดเวลายุ่งยาก เพิ่มเวลาความสุข
8. NET ZERO AGENDA เป็นผู้นำเพื่อผลประโยชน์ของโลกและธุรกิจ
9.HUMANITY RESILIENCE ประสบการณ์นวัตกรรมการปรับตัวอยู่ร่วม เพื่อมวลมนุษยชาติ เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้นย่อมสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นเราจึงต้องปรับตัว โดยที่อยู่อาศัยจำเป็นที่จะต้องสามารถทนทานต่อทั้งสภาพภูมิอากาศที่สุดขั้วได้ เช่น อุทกภัย แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ฯลฯ
10. NEW FRONTIER วิจัยและพัฒนาเพื่อแสวงหาอาณานิคมใหม่ การเกิดขึ้นของโครงการอวกาศแต่ละครั้งล้วนสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ การนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้บนพื้นโลกนั้นถือเป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้สิ่งของบนโลกถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยพบมูลค่าตลาดธุรกิจอวกาศ มีมูลค่ากว่า 4.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 50% ในปี 2040