1.แมวไทยโบราณศุภลักษณ์ (Burmese)
เชื่อว่า หากเลี้ยงไว้จะได้ยศถา ลาภยศ และ เจริญรุ่งเรือง
ลักษณะ : มีรูปร่างขนาดกลาง สง่า ขายาวเรียวฝ่าเท้าอวบ ศีรษะค่อนข้างกลมกว้าง สีทองแดงหรือน้ำตาลแดงเข้มทั่วตัว ตาสีเหลืองอำพัน หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง ฉลาด เปี่ยมล้นไปด้วยพลัง กระตือรือร้น ขี้เล่น และ ติดเจ้าของ
2.แมวไทยโบราณวิเชียรมาศ (Moon Diamond)
เชื่อว่า หากเลี้ยงไว้จะมีทรัพย์สมบัติเพิ่มพูน ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ลักษณะ : รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจ ดวงตาสีฟ้าสดใส ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน ขนสั้นแน่นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่งหรือสีน้ำตาลไหม้ มีแต้มสีครั่งหรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกันกับแมวเก้าแต้ม
3.แมวไทยโบราณสีสวาด
เชื่อว่า หากเลี้ยงไว้จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิ์ เป็นมงคลแก่เจ้าของ
ลักษณะ : รูปร่างปานกลางค่อนข้างกลม หูใหญ่ตั้งสูงเด่น ดวงตาใหญ่สีเหลืองสดหรือสีเหลืองอมเขียว ขนเรียบสั้นถึงยาวปานกลางเป็นมันเงา โคนขนมีสีขุ่นเทา ปลายสีเงินหรือสีเหมือนดอกเลา (silver blue) จึงมีอีกชื่อเรียกว่า แมวมาเลศ หรือ แมวดอกเลา
4.แมวไทยโบราณขาวมณี
เชื่อว่า หากเลี้ยงไว้จำค้ำคูณเจ้าของและนำโชคลาภมาให้
ลักษณะ : รูปร่างลำตัวยาวขาเรียว สีขนและผิวกายขาวสะอาด หัวทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวใจ จมูกสั้น หูตั้งใหญ่ ขนสั้นนุ่มเนียนสนิท นัยน์ตาสีฟ้า สีเหลืองอำพัน หรือ ตาสองสี (Odd eyes)
5.แมวไทยโบราณโกญจา
เชื่อว่า หากเลี้ยงไว้จะช่วยให้ประสบความสำเร็จ เสริมอำนาจวาสนา
ลักษณะ : ลักษณะท่าทางสง่าเหมือนสิงโต มีปากเรียวแหลม ดวงตาเป็นประกายสีเหลืองอมเขียว ขนเส้นเล็กสั้นละเอียดนุ่มและเรียบตรงดำสนิทตลอดทั้งตัว จึงมีอีกชื่อเรียกว่า ดำปลอด
สุดท้ายนี้ไม่ว่าเพื่อนๆจะเลี้ยงแมว หรือสัตว์อะไรก็ตาม ขอให้เลี้ยงเขาด้วยความรักนะครับ