เปิดประโยชน์ในการเลี้ยงแมวที่คุณคาดไม่ถึง

ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ

มหาวิทยาลัยมินิโซตาในสหรัฐอเมริการะบุจากผลการวิจัยในปี 2008 ว่าการเลี้ยงแมวนั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจได้ การวิจัยนี้พวกเขาใช้เวลาในการศึกษาและเก็บข้อมูลนานถึง 10 ปี
จากผู้เลี้ยงแมวชาวอเมริกันที่มีอายุ 35 ปี ถึง 74 ปี 4,435 คน ผลปรากฏว่าการเลี้ยงแมวนั้นมีส่วนช่วยให้ความเครียดและความกังวลในเรื่องต่าง ๆ ลดลง
ช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดปกติของหลอดเลือดและหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาการหัวใจวายที่การเลี้ยงแมวนั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้มากถึง 30% เลยทีเดียว

บำบัดความรู้สึก

ในเชิงจิตวิทยานั้น แมวสามารถรับรู้ถึงความรู้สึก การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ รวมถึงการสัมผัสของคนเราได้ การที่เราได้พูดคุยกับแมว สัมผัสตัวแมว การระบายความรู้สึกให้กับแมวได้ฟัง ช่วยในการบำบัดความเจ็บปวดให้หายเร็วยิ่งขึ้น ระยะเวลาความเจ็บปวดนั้น ๆ สั้นลง 

เสียงครางของแมวช่วยลดโรคได้

เสียงคราง หรือ purring ของแมวจัดอยู่ในช่วงความถี่ 20-140 เฮิรตซ์ เป็นช่วงความถี่ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเอ็น ซึ่งจะช่วยลดความเครียด ลดความดันโลหิต และสามารถใช้รักษาโรคได้ เช่น ลดอาการหอบหืด ช่วยในการรักษาโรคกระดูก เนื้อเยื่อ ข้อต่อ 

ดึงดูดเพศตรงข้าม

มีการสำรวจความคิดเห็นของสตรีชาวอังกฤษ พบว่าร้อยละ 82 บอกว่าผู้ชายที่ชอบเลี้ยงแมวดูมีแรงดึงดูดให้ชอบมากขึ้น ผลสำรวจ 90% ของผู้หญิงโสดบอกว่า ผู้ชายที่เลี้ยงแมวดูเป็นคนน่ารัก สุภาพ และเป็นมิตรมากกว่าคนอื่น ๆ

กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

การศึกษาจากในซานฟรานซิสโก ระบุว่า บุคลิกลักษณะระหว่างผู้ที่เลี้ยงแมวกับสุนัขมีความแตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างก็เกิดขึ้นจากสัตว์เลี้ยงของพวกเขานั่นเอง โดยพบว่าผู้ที่เลี้ยงแมวเป็นคนที่เปิดเผย อ่อนไหว และมีความคิดนอกกรอบมากกว่าผู้ที่เลี้ยงสุนัข

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

มีงานวิจัยในปี 2009 ระบุว่า ถ้าคำนึงถึงการเลี้ยงสัตว์กับผลต่อสิ่งแวดล้อมนั้นพบว่า การที่เราเลี้ยงแมว ปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) น้อยกว่าสุนัขหลายเท่าตัว การดูแล และให้อาหารสุนัขสามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่ากับได้กับรถยนต์หนึ่งคัน ในขณะที่แมวซึ่งเป็นสัตว์ที่กินน้อย และ อาหารที่แมวกินส่วนใหญ่ก็ยังเป็นปลามากกว่าเนื้อสัตว์ และ ข้าวโพด ดังนั้น จึงทำให้มีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า