จากบทความของ Psychology Today โดย คาเรน วู (Karen Wu) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ระบุเอาไว้ว่า แมวที่มีขนสีส้มมักมีพฤติกรรมก้าวร้าว และมีความดึงดูดต่อแมวด้วยกันเองมากกว่าแมวประเภทอื่น
1. แมวสีส้มนั้นพบได้ทั่วไปในชนบทมากกว่าพบในเมืองที่มีจำนวนประชากรแมวต่อพื้นที่แออัดกว่า การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่า แมวส้มอาจประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์มากขึ้นในสภาพสังคมที่มีลักษณะเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกเมือง
2.แมวสีส้มมีความน่าสนใจทางเพศมากกว่าแมวสีอื่น ๆ ในสายตาแมวด้วยกันเอง เนื่องจากนักวิจัยพบว่าแมวเพศผู้สีส้มนั้นมีน้ำหนักมากกว่าแมวสีอื่น อีกทั้งยังมีขนาดโดยเฉลี่ยใหญ่กว่า เป็นผลให้พวกมันประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ที่มากกว่าในสถานการณ์ที่ขึ้นอยู่กับการแข่งขันทางร่างกาย
แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากงานวิจัยในปี 2007 โดยปอนเทียร์เช่นเดียวกัน โดยระบุว่าแมวเพศผู้ที่มีขนาดใหญ่กว่าจะมีอำนาจเหนือกว่าและก้าวร้าวมากกว่า
3. แมวส้มพบได้น้อยกว่าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่มีผลต่อชีวิต กล่าวคือแมวส้มมีพฤติกรรมที่มักจะเป็นอันตรายถึงตาย ซึ่งส่งผลให้พวกมันพบในพื้นที่เสี่ยงเช่นในสังคมเมือง (เสี่ยงจากอุบัติเหตุ หรือการต่อสู้กับแมวด้วยกันเองจากความก้าวร้าวที่แมวส้มมีมากกว่า) น้อยกว่าพื้นที่เช่นชนบท
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับสีขนอาจเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่ามีความเชื่อมโยงกัน แต่ความสัมพันธ์นี้ก็สามารถพบได้ในสัตว์อื่น ๆ เช่นกันไม่ว่าจะเป็นหนูและนก ยีนบางตัวที่รับผิดชอบต่อพฤติกรรมหรือลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ เช่นขนาดของร่างกาย อาจได้รับการสืบทอดควบคู่ไปกับยีนที่รับผิดชอบในการสร้างสีขน และในแมวก็เคยมีงานวิจัยเมื่อปีที่แล้ว (2021) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ที่ระบุว่าแมวบางสี (ซึ่งประกอบไปด้วยแมวสีส้มตัวเมีย แมวสีขาวดำตัวเมีย และแมวสีเทาขาวตัวเมีย) นั้นมีความก้าวร้าวต่อมนุษย์มากกว่าแมวสีอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามงานวิจัยไม่ได้ระบุหรือยืนยันความเชื่อที่ว่าแมวสีส้มมีความน่ารักและเป็นมิตรกว่า แต่หากการเหมารวมนี้เป็นจริง ก็อาจเป็นเพราะพฤติกรรมที่ดูกล้าหาญ