หยุดดื่มกาแฟ ทำให้ปวดหัวได้จริงๆ หรือไม่

หยุดดื่มกาแฟ ทำให้ปวดหัวได้จริงๆ หรือไม่ สรุปก็คือ.. เรื่องจริง ทีนี้มาดูคำอธิบายกันค่ะ โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แนะนำว่า อย่างดกาแฟด้วยวิธีแบบหักดิบ หรือ หยุดทันที ส่วนใหญ่จะเกิดผลเสีย จนบางคนไม่อยากจะเลิกกาแฟอีก

หยุดดื่มกาแฟ = ปวดหัว แก้ไขอย่างไร 

ถ้าต้องการเลิกดื่มกาแฟ หรือจำเป็นต้องงด ควรลดปริมาณกาแฟลงวันละน้อย ทั้งจำนวนช้อนและจำนวนแก้วต่อวัน เช่น ถ้าเดิมดื่มกาแฟวันละ 3-4 แก้ว ครั้งละ 2 ช้อน อาจค่อยๆ ลดลงเหลือ วันละ 2 แก้ว ครั้งละ 1.5 ช้อน

พอเริ่มชินก็ลดปริมาณลงอีก จนหยุดได้ กรณีสั่งผ่านร้านกาแฟก็บอกให้คนชงลดปริมาณลงทุกครั้ง จนกว่าจะชินกับปริมาณความเข้มข้นที่ลดลง

สรุป : หยุดดื่มกาแฟ ทำให้ปวดหัวได้จริงๆ หรือไม่ การที่ร่างกายได้รับกาแฟทุกวันหากไม่ได้ดื่มจะมีอาการปวดหัวขึ้นมา เป็นผลมาจาก ฤทธิ์ของสารคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ โดยความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท ช่วยให้ร่างกายกระปรี้ประเปร่า กระฉับกระเฉง อีกทั้งยังมีสารเสพติดด้วย การได้รับทุกวันจะทำให้ร่างกายต้องการสารที่ว่านี้ตลอด หากไม่ได้รับจะเกิดอาการปวดหัว อ่อนเพลีย ง่วงซีม หดหู่ ไม่มีสมาธิ ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ทรมานสำหรับคนที่อยากเลิกกาแฟให้ค่อยๆ ดื่มในปริมาณที่ลดลงแทนที่จะหยุดดื่มกระทันหัน จนกระทั่งสามารถเลิกได้ในที่สุด นอกจากคาเฟอีนจะมีในกาแฟแล้ว ก็ยังมีในเครื่องดื่มอื่นๆด้วย เช่น ชา โกโก้ ไอศกรีมรสกาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ เป็นต้น

ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล