คนแน่นทะลัก วัดบางกุ้ง หลังงวดที่แล้วมีคนถูกรางวัลที่ 1
คนแน่นทะลัก วัดบางกุ้ง อัมพวา หลังงวดที่แล้วมีคนถูก รางวัลที่ 1 สายมูนับหมื่นเข้าแถวยาวนับกิโลฯ นานกว่า 4 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงวันยันตี4
เลขเด็ดวัดบางกุ้ง กระแสโซเชียลมาแรงในขณะนี้ต้องยกให้ วัดบางกุ้ง อัมพวา ที่มีคนแน่นทะลัก หลังงวดที่แล้วมีคนถูกรางวัลที่ 1
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2566 มีประชาชนเดินทางมาแน่น วัดบางกุ้ง ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากเกิดกระแสไวรัล ที่มี นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยรถยนต์ มาจอดริมถนนอัมพวา-บางคนที เป็นแถวยาวหลายกิโลเมตร และเดินเท้าเข้าไปต่อคิวเพื่อรอกราบไหว้ขอพร "หลวงพ่อพุทธนิลมณี" ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ อัลซีนไทยแลนด์ กันเป็นจำนวนมาก
เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยว สายมูเตลู แห่มาที่วัดบางกุ้งมากมายขนาดนี้ เกิดขึ้นมาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่เวลา 18.00-04.00 น. จะมี ประชาชนแห่มาล้นหลาม สาเหตุเกิดจากมีคนมาบนแล้วสมปรารถนา และนำข้าวต้มมัดมาแก้บน โดยมีคนนำไปลงในโลกโซเชียล อีกทั้งมีคนมา ขอโชคลาภ และได้เลข 903 ไปถูกรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ทำให้มีประชาชนแห่มาขอโชคลาภกันเป็นจำนวนมาก จนต้องต่อแถววนไปรอบวัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร บางคนรอนานกว่า 4 ชั่วโมง
สำหรับ "วัดบางกุ้ง" แห่งนี้ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ ช่วง พ.ศ.2308 กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ จึงรับสั่งให้หัวเมืองทางใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่าย และสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้ง ที่ ต.บางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า "ค่ายบางกุ้ง" เมื่อกองทัพพม่ายกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลอง และบุกเข้ามาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ ค่ายบางกุ้งจึงแตก และพม่าก็สามารถเข้าตีกรุงศรีอยุธยาจนแตกในปี พ.ศ.2310 ต่อมาเมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ล่องเรือจากจันทบูรมาตีค่ายบางกุ้งแห่งนี้คืนได้สำเร็จ โดยได้กอบกู้เอกราชและสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป้นเมืองหลวงแห่งใหม่ ต่อจากรุงศรีอยุธยา
โดยจุดเด่นความสวยงามของ "วัดบางกุ้ง" แห่งนี้ ที่แตกต่างจากวัดอื่นๆคือ โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งเป็นโบสถ์มหาอุด อายุกว่า 200 ปี ซึ่งถูกต้นไม้ใหญ่ 4 ชนิดขึ้นปกคลุม ได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง ถือเป็นโบสถ์ในต้นไม้แห่งเดียวในประเทศไทย อีกทั้งโบสถ์ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ตามแบบวัดไทยทั่วๆไป และแม้โบสถ์จะเก่าแก่และทรุดโทรม แต่รากไม้เหล่านี้เป็นตัวช่วยยึดให้โบสถ์ยังคงรูปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ถือว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยว "Unseen Thailand" และเชื่อกันว่าโบสถ์แห่งนี้ลงคาถาอาคม เพื่อพลางตาศัตรูที่หมายคิดร้ายและหวังทำลายโบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งหากใครดวงไม่มีโดนคุณไสย เมื่อเข้ามาที่โบสถ์แห่งนี้ก็จะหาย เมื่อออกมาจากโบสถ์จะถือได้ว่าเป็นการพลิกชีวิตทันที
ทั้งนี้ ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์ ได้ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธนิลมณี" หรือ หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สลักจากหินทรายแดง ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน