เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกรณี เมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 ซึ่งเริ่มโครงการเราชนะเป็นวันแรก ธนาคารกรุงไทยได้แจ้งปิดระบบ เพราะพบว่าระบบการใช้สิทธิขัดข้องในส่วนของระบบแอพพลิเคชั่นถุงเงิน และระบบ EDC ทำรายการที่ซ้ำซ้อนกันนั้นว่า ที่ผ่านมาคลังพบประชาชน ร้านค้าใช้จ่ายวงเงินสิทธิผิดวัตถุประสงค์โครงการ ซึ่งได้ระงับการใช้จ่ายทั้งในส่วนร้านค้า 152 ร้านค้า และ 167 คน ซึ่งได้ประสานตำรวจดำเนินการติดตามและดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากผิดจริงก็จะดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหาย ตอนนี้กรุงไทยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่คลัง และทีมงานกรุงไทยในพื้นที่ เพื่อลงไปตรวจสอบเชิงลึกเพิ่มเติม
จากกรณีนี้มีมูลค่าที่ใช้จ่ายเกินไปกว่า 3 แสนบาท ถือว่าไม่มากและเราตรวจสอบได้เร็วมาก ยกตัวอย่างรูปแบบกลโกงที่ตรวจสอบได้ มีพฤติกรรมที่อาจมีความตั้งใจใช้จ่ายผิดปกติ เช่น ในบุคคลรายเดียวทานก๋วยเตี๋ยวถี่ทุก 2-5 นาที เป็น 30-40 ชาม การเกิดกิจกรรมแต่ละจุดต้องเกิดจากผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนั้นเราจะมุ่งเป้าไปที่ร้านค้าเป็นหลัก ซึ่งหากร้านค้ามีการขายก๋วยเตี๋ยวได้ 30-40 ชามภายใน 2-5 นาที ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ในส่วนของระบบที่ขัดข้องไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ. มาจากการดำเนินการประมวลผลของระบบสิทธิ ซึ่งรอบนี้จะต่างจากระบบเดิมที่เมื่อหมดสิทธิที่ได้แต่ละรอบสิทธิจะถูกตัดทิ้ง แต่กรณีนี้รัฐบาลให้สามารถสะสมได้ จึงเกิดรูปแบบการประมวลผลที่มีการเสริมเข้ามา แต่เมื่อเกิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตกระตุก ทำให้การเชื่อมโยงการส่งต่อข้อมูลของ 2 ระบบมีช่องว่างเกิดขึ้น
ทั้งนี้ คลังขอความร่วมมือประชาชนรักษาสิทธิของตนเอง และขอให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ สำหรับประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ สามารถแจ้งเบาะแส รวมถึงส่งหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการ ถึง “คณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อมูลและเรื่องร้องเรียนสำหรับโครงการฯ” ทางไปรษณีย์มาได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400