ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งทนดูไม่ไหว จนต้องออกมาเผยว่า เห็นดราม่ากันในเฟซมาสักพักละ ก็ถ้าให้ผมตอบตามตรงจริงๆก็อยากให้ไปเที่ยวกันครับ
ถึงตัวผมเองจะเป็นสายอนุรักษ์แบบ 50%แล้ว แต่เพราะว่าได้รู้เรื่องของลุงแดงแห่งโอเอซิสซีเวิลด์มาครับ เขาเคยตั้งที่นี่เป็นสถานพยาบาลดูแลโลมาติดอวนและใกล้ตายมาก่อน ในสมัยก่อนการช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ให้มีชีวิตรอดเป็นไปได้ยากมาก แต่ความพยายามของคนไทยในการคุมให้หายดีต้องใช้ความอดทนในการดูแลจนหายดี ในปี พ.ศ.2533 ลุงแดงก่อตั้งที่นี่เป็นบริษัทโอเอซิส ซีเวิลด์ จำกัด วัตถุประสงค์คือ เพื่อการรักษาดูแลโลมาและให้ลูกหลานคนไทยได้รู้จักและรักโลมาไทย
ภาพนี้คือสถานที่เก่าแห่งหนึ่งที่เป็นเครือเดียวกับโอเอซิสซีเวิลด์ นั่นก็คือพัทยาดอลฟิ้นเวิลด์ ได้ปิดตัวชั่วคราวมาได้จะครบปีนึงแล้วเพราะผลกระทบโควิด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่แห่งนี้จะเปิดต่อหรือไม่ ก็ไม่ทราบครับ แต่โอเอซิสซีเวิลด์ที่จันทบุรีแหลมสิงห์ยังคงเปิดทำการอยู่ ใครที่อยู่ใกล้ก็อย่าลืมไปแวะเยี่ยมได้ครับ ช่วยเหลือคนไทยกันให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้
อย่าเอาดราม่าการจับขังสัตว์น้ำมาเป็นตัวตัดสินว่าควรอยู่หรือควรไป ควรตัดสินในความตั้งใจและอุดมการณ์แรกเริ่มของผู้เลี้ยงโลมาครับ เข้าใจว่าเรื่องการจับขังสัตว์น้ำมันมีกระแสมาจาก The Cove สารคดีนองเลือดฆ่าล้างโลมาเป็นอุตสาหกรรมการล่าของญี่ปุ่น แล้วมีการขายลูกโลมาเหล่านั้นให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วโลก บางสิ่ง.....แลกมาด้วยความเจ็บปวดเป็นแผลลึกจิตใจคน แต่มันจะกลายเป็นการสร้างอุดมความรู้และความเข้าใจให้กับคนรุ่นใหม่มากขึ้น
บิวคุงขอฝากไว้แค่นี้ครับ วิกฤติโควิดต้องผ่านไปด้วยกัน #โอเอซิสซีเวิลด์ #IradwaddyDolphin #โลมาไทย
ขอบคุณที่มา : Supanut Benjadumrongkit