ด้านแม่ของน้องน้ำมนต์ได้โพสต์คลิปสุดสะเทือนใจ จับมือลูกสาวครั้งสุดท้าย พร้อมทั้งระบุถ้อยคำสุดอาลัยแก่ลูกสาวว่า “ใจแม่สลายแล้วลูกจ๋า พอรู้ก็เร่งเดินทางทันที เราอยู่กับหนูตลอด ภาวนา อธิษฐาน บนบาน ทำทุกอย่างที่ใครๆ แนะนำ แต่หนูก็จากพวกเราไป ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่ทรมานแล้วนะลูก หนูอดทนมากพอแล้ว กลับบ้านเรากันนะลูก นางฟ้าของแม่ นางฟ้าของพวกเรา ขอให้หนูหลับให้สบายนะลูก พวกเราทุกคนรักหนูมากก ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ บุญกุศลหนุนส่งให้หนูอยู่ในที่ดีๆ รักลูกสุดหัวใจ น้ำมนต์ มนชนิตว์ ช่วยบุญ"
นอกจากนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอยังคงมีทั้งเหล่าเพื่อนฝูงและเพื่อนๆ ในวงการที่รู้จักได้เข้ามาร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางคนยังคงทำใจไม่ได้และมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ขอให้น้องน้ำมนต์ไปสู่ภพภูมิที่ดีและไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ด้านประวัติของน้องน้ำมนต์ เธอมีชื่อจริงว่า มนชนิตว์ ช่วยบุญ ปัจจุบันอายุ 22 ปี เกิดวันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2541 จบการศึกษาระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี และจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จากโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ในอดีตเคยเป็นถึงนางนพมาศ และเป็นดาวคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนที่จะได้มาครองตำแหน่งรองนางสาวไทย ปี 2562 ซึ่งปี้นั้น ตำแหน่งอันดับหนึ่งเป็นของ บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์
ทั้งนี้ในปี 2562 น้องน้ำมนต์ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชั้นปีที่ 3 ได้เข้าประกวดในฐานะนางงามมหาสารคาม ที่ผ่านการคัดเลือกจากระดับจังหวัด และระดับภาค เข้าไปสู่รอบ 39 คนสุดท้าย ดีกรีเป็นถึงดาวคณะวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2560 และเป็นนางนพมาศ มข. ประจำปี 2561 ภายในงาน "สีฐานเฟสติวัล บุญสมมาบูชาน้ำ" มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรืองานลอยกระทง ในปีที่ผ่านมา
ก่อนจะคว้าตำแหน่งรองนางสาวไทย เป็นนางสาวไทยประจำภาคอีสานมาได้ โดยในรอบตัดสินมีผู้เข้าประกวด 39 คนที่ผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัดและระดับภาคมาแล้ว ซึ่งน้องน้ำมนต์ มีความโดดเด่น ฉลาด ไหวพริบดีมาก มีความสามารถพิเศษมากมาย ทั้งการแสดงจินตลีลา และเล่นเปียโน