ทนายมือใหม่เจอเคสหนักใจ ต้องเลือกระหว่างจรรยาบรรณกับความเป็นมนุษย์

กลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจและถกเถียงกันอย่างมาก เมื่อทนายความมือใหม่ได้เจอเคสชวนอึ้ง ซึ่งเธอเริ่มต้นด้วยจากเล่าวว่า "จริงไหมคะที่ คนขับรถบรรทุกถูกสอนกันมาว่า ถ้าชนคนต้องซ้ำอย่าให้รอด! เราเพิ่งเป็นทนายความ ดันมาเจอเคสนี้เลยไม่สบายใจหนักเลยค่ะ คือเราเป็นทนายน้องใหม่ค่ะเพิ่งสอบตั๋วรุ่นได้ ปี 63 แล้วเราก็ไปช่วยคนเป็นทนายอาสาออกแนวไส้แห้งนิด ๆ เหมือนแม่ลีน่า 555+

เข้าเรื่องนะคะ เราเองไม่สบายใจเลยเพราะเคสล่าสุดของเราทำเราโมโหมาก ย่อๆ นะคะ มีรถบรรทุกคันนึงคนขับรถประมาทไปชนคนค่ะ รูปคดีมันเป็นลักษณะประมาทร่วมก่อน คือรถบรรทุกวิ่งเลนขวาสุดในความเร็ว 80 กม./ชม. เหตุเกิดบนถนนทางหลวงทั่วไปค่ะ รถบรรทุกเลยวิ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนดไว้ที่ 60 และก็มีจักรยานยนต์คันนึงที่วิ่งนำไปก่อนแล้วในเลนเดียวกันค่ะ ทีนี้ด้วยความที่รถบรรทุกขับเร็ว และจยย.เองก็นะ วิ่งเลนขวาสุดซึ่งก็ผิดเหมือนกัน

จังหวะรถบรรทุกขับเร็ว ก็ไปเสยท้ายจยย.ค่ะ พอคนขับรถบรรทุกเห็นว่าชนคนก็ไม่จอดหรือเบรกเลย เขากลับวิ่งต่อไปในความเร็วเท่าเดิมแถมยังเหยียบซ้ำเอาร่างของผู้บาดเจ็บลากไปกับพื้นถนนด้วยจนทำให้เกิดการทับซ้ำจนเสียชีวิต เรื่องก็มีประมาณนี้ค่ะ เข้าประเด็นที่สงสัยนะคะ พอเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เขาก็ได้รับมอบหมายจากสภาทนายความให้ลงไปช่วยเป็นทนายจำเลยค่ะ 

เราก็ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุ และเขาก็เปิดใจคุยกับเราตรงๆ ประมาณว่า "จริงๆ ผมไม่ได้ประมาทหรอก ผมเห็นแล้วว่าชนคน แต่ที่ผมไม่จอดเพราะผมตั้งใจจะเหยียบซ้ำให้เขาเสียชีวิตเรื่องจะได้จบแค่จ่ายค่าทำศพ" ฟังแล้วเราอึ้งเลย เขาคิดอะไรอยู่คะ ถึงมาพูดสารภาพกับเราแบบนี้ แถมยังไม่สำนึก สยองเกินไป เราก็เลยถามเขากลับไปว่าทำไมเขาถึงเจตนาทำแบบนั้น ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้จักหรือมีความโกรธแค้นใดๆ แก่กันและกันมาก่อน อยู่ดีๆ ที่ทำไปเขามีวัตถุประสงค์อะไร

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

จำเลยก็ตอบมาค่ะ "รุ่นพี่ที่ขับนถบรรทุกด้วยกันและก็เจ้านายสอนเขามาต่อๆ กัน รุ่นสู่รุ่น ว่าถ้าเกิดชนคน ต้องเหยียบซ้ำให้อย่าให้รอด เพราะถ้าไม่ตายแต่พิการขึ้นมาคนขับหัวหน้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าดูแลจนหายหรือถ้าไม่หายก็ต้องดูแลไปชั่วชีวิต และยังต้องส่งเสียเลี้ยงดูผัว - เมีย ลูกหลาน พ่อแม่ของคนเจ็บอีก เหยียบซ้ำอย่าให้รอดอ่ะง่ายดี จ่ายแต่ค่าทำศพไม่ต้องมาคอยดูแล"

ยิ่งฟังยิ่งช็อกค่ะ ช็อกสองตลบ ช็อกปะล้ำปะเหลือถึงตรงนี้หัวหน้าของเขาก็เข้ามานั่งคุยกันพอดีค่ะ แล้วเขาก็ยื่นข้อเสนอให้เรา บอกว่าจะให้เงินเราหลักแสนก็สู้แต่ขอให้เราช่วยพลิกคดีนี้ให้เป็นประมาท ได้ไหม เพราะถ้าประมาทโทษมันจะเบากว่า เขาเข้าใจว่าหากโทษหนักตัวเขาเองซึ่งเป็นหัวหน้าหรือเจ้านายก็จะมีความผิดหนักพ่วงไปกับคนขับรถด้วย ซึ่งเขาก็เข้าใจถูกแล้วเพราะหัวหน้าหรือเจ้านายมีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนรับผิดชอบหากลูกน้องกระทำความผิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่

เรายิ่งได้ฟังมาแบบนี้เราไม่อยากช่วยอ่ะค่ะ เราต้องการตั้งกระทู้ถามค่ะว่า ถ้าเราช่วยเขาแต่ช่วยให้เขาติดคุกหนักกว่าเดิมฐานเจตนาแบบนี้เราจะผิดจรรยาบรรณไหมคะ ถ้ามันผิดจรรยาบรรณเราก็ไม่กล้าเสี่ยง แต่เราทำงานด้านกฎหมาย เราเลยไม่ต้องการให้ใครทำผิดกฎหมาย และเราก็ไม่ชอบทำคดีให้กับคนที่กระทำความผิดจริงๆโดยเจตนา เราเกลียดมากที่ต้องมานั่งทำคดีให้กับผู้ต้องหาที่ทำผิดจริงๆ อ่ะค่ะ

คือเราอยากรู้ไม่กี่เรื่อง เรื่องแรกนะ คือถ้าเราช่วยทำให้คดีนี้เป็นการเจตนาโดยเอาคำให้การของทางผู้ต้องหามาให้การในชั้นศาลเพื่อทวงความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิต มันจะเกิดผลดีผลร้ายยังไงกับเราคะ เรายอมเสี่ยงที่จะเอาเขาเข้าคุกให้ได้ เพราะเราเกลียดมากเลยคือพวกคนทำผิดแต่มาขอให้เราช่วยทำคดีให้ล้ม และเราก็อยากที่จะทำหน้าที่ของทนายความในการรักษากฎหมายให้ดีที่สุดค่ะ

อีกเรื่องนึงที่เราอยากรู้ว่าคือว่า มันมีความเชื่อและมีการสั่งสอนแบบนี้ในกลุ่มผู้ขับรถบรรทุกจริงๆ หรอคะ? จริงหรือเปล่าคะที่เขาพูดออกมาเต็มปากเต็มคำเลยว่าคนขับรถบรรทุกสอนกันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่าถ้าชนคนต้องเหยียบซ้ำ มันมีคำสอนแบบนี้ด้วยหรอ งั้นแสดงว่าสังคมคนขับรถบรรทุกก็เท่ากับอาชญากรเลยสิคะเพราะสอนกันแบบนี้โดยที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรเลยอ่ะ

งานนี้ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งคนเชียร์ให้เธอทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่อีกฟากความเห้นกลับต้องการให้เธอทำในสิ่งที่ถูกต้องใน ฐานะทนายความที่ว่าความให้กับลูกความ ไม่อยากให้เธอเอาความรู้สึกส่วนตัวไปเกี่ยวข้อง

อ่านโพสต์ต้นฉบับ