กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งซึ่งเป็นคุณหมอหญิง ได้เผยพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่ไปกางเต็นท์ที่หุบเสือโหน่ง จังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ในกลุ่ม ลานกางเต็นท์ใหม่บอกด้วย....ขอแชร์ประสบการณ์กางเต้นท์ที่ ลานกางเต้นท์ หุบเสือโหน่ง จ.กาญจนบุรี ไว้ให้ทุกท่านได้ทราบเป็นอุทาหรณ์และระวังภัยอันตรายใกล้ตัว ดิฉันและเพื่อนผู้หญิง 1 คนจองที่พักที่นี่เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ. 64 เพราะได้ยินว่าเป็นสถานที่ยอดฮิตและได้รับริวิวอย่างดี ขับรถถึงลานกางเต้นท์เวลา 16.00น. เราสองคนกางเต้นท์กันจนเรียบร้อย พบเจอกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นประมาณ 6 คนและผู้หญิง 1 คน อายุ 25-35ปี? เข้ามากางเต้นท์ติด
สิ่งที่สังเกตุคือ วัยรุ่นกลุ่มนี้มีการเสพกัญชา เพราะมีกลิ่นฟุ้งออกมารอบๆบริเวณกางเต้นท์
ดิฉันและเพื่อนรู้สึกไม่สบายใจถึงการมั่วสุมเพื่อเสพยากันอย่างโจ๋งครึ่ม
เวลาช่วงเกือบ 23.00น. ผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งในนั้นมีอาการ 'ชักเกร็งกระตุก ไม่รู้ตัว อาเจียน'
ดิฉันเป็นหมอ รีบเข้าไปช่วย จึงสอบถามว่าใช้ยาอะไรบ้าง ให้บอกตามจริง
ผู้ชายที่กำลังประคองคนป่วย บอกว่าใช้ "ใบกระท่อม''
ดิฉันจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการให้นอนตะแคงเพื่อเปิดให้ทางเดินหายใจโล่ง คลำชีพจรพบว่าเบาและเร็ว จึงรีบบอกให้เรียกรถพยาบาล และถามคนละแวกนั้นว่า ใครพอปั้มหัวใจเป็นบ้าง เพราะกรณีการใช้สารเสพติดเกิดขนาด คนไข้สามารถหัวใจหยุดเต้นได้ (พยายามเตรียมทีมคนปั้มไว้กรณีต้องเริ่มปั้มหัวใจ) ผ่านไป 2-3 นาที คนไข้รู้สึกตัวและลุกขึ้นนั่งได้ จึงบอกให้พาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เมื่อคนไข้ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ดิฉันตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่ของหุบเสือโหน่งเพื่อแจ้งดังนี้
1) ดิฉันและเพื่อนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวใช้สารเสพติด ซึ่งไม่รู้ว่าจริงๆแล้วใช้อะไรบ้าง >> หากภายหลังมีอาการคลุ้มคลั่ง หรือ อาการแทรกซ้อนอื่นๆจากสารเสพติด จะเกิดอันตรายต่อคนอื่นๆที่พักรอบๆหรือไม่
2) ขอให้เจ้าหน้าที่หุบเสือโหน่ง 082-168-7991 พิจารณาให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวออกจากพื้นที่ หรือจุดที่ห่างไกลคน
3) ถ้าไม่สามารถจัดการได้ จะขอ 'รีวิว' ตามจริง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รับเรื่องและบอกว่าจะช่วยดำเนินการให้
ผ่านไป 20 นาที 23.30น. เจ้าหน้าที่เสนอให้ดิฉันและเพื่อนย้ายไปนอนที่ห้องพักด้านล่างแทนเพราะคิดว่าการขอให้กลุ่มวัยรุ่นออกไป อาจเกิดปากเสียง (ดิฉันกับเพื่อนย้าย... แล้วคนอื่นๆที่ยังพักบริเวณนั้น?)
‼️เวลาเกือบ 24.00น มีเจ้าหน้าผู้ชายอายุประมาณ 40-50 ปีมายืนตะโกนหน้าเต้นท์โซนด้านบน
'ใหนน... ใครจะมาริวิวประจานที่พัก'
ผู้ชายคนนี้พูดจาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด บอกว่าวัยรุ่นคนอื่นๆที่เหลือไม่ใช้ยาด้วย จะไล่ออกไปได้อย่างไร และต่อว่าดิฉันซึ่งเป็นลูกค้า ดิฉันอธิบายแล้วว่าดิฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเหตุผล
ท้ายสุด...ดิฉันและเพื่อนจึงตัดสินใจออกจากที่นี่เวลา 00.30น. เก็บเต้นท์และเก็บของ มีคนใจดีรอบๆมาช่วยกันเก็บของ โดย "ปราศจาก" การช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หุบเสือโหน่ง
ดิฉันและเพื่อนต้องขับออกไปหาที่พักในความมืดและเปลี่ยวถึง อ.หนองปรือ ห่างไป 30 km เข้าที่พักอื่นที่จองอย่างยากลำบาก (4-5 ที่โทรไปและปฏิเสธการให้เข้าพัก) เวลา 2.00น.
สิ่งที่อยากฝากถึง "หุบเสือโหน่ง" คือ...
‼️เมื่อหุบเสือโหน่งรู้แล้วว่า มีการเสพสารเสพติดในพื้นที่ของคุณและมีคนชัก..ความปลอดภัยของทุกคนที่เหลือในพื้นที่มีความสำคัญที่สุด‼️
สิ่งที่อยากฝากถึงเพื่อนๆที่รักการกางเต้นท์คือ...
- นักกางเต้นท์ผู้หญิง ควรมีอุปกรณ์ป้องกันตัวและมีเบอร์ฉุกเฉินไว้ให้พร้อม
- ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานที่ที่ไปและเจ้าของพื้นที่เอกชนให้ความสำคัญและใส่ใจความปลอดภัยของคนที่มากางเต้นท์
- ควรระแวดระวังความปลอดภัยไว้เสมอ อย่าชะล่าใจว่าทุกๆที่ที่ไปจะปลอดภัย
- หาที่พักสำรองและทางหนีทีไล่ไว้เสมอ กรณีฉุกเฉิน
ความคืบหน้าล่าสุดนั้น ในวันที่ 1 มี.ค.64 ทางแคมป์ปิ้งที่หุบเสือโหน่ง ได้ออกมาชี้เเจง หุบเสือโหน่ง แสดงความรับผิดชอบและขอชี้แจง กับเหตุการณ์ในคืนวันเสาร์ที่27กพ.2564 ทางลานกางเต็นท์ขอแสดงความรับชอบ โดยให้เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลลานกางเต็นท์”หุบเสือโหน่ง”พ้นสภาพการเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในลานกางเต็นท์ เนื่องจากควบคุมดูแลความเรียบร้อยภายในลานกางเต็นท์ไม่ได้ และทางเรา ขอรับผิดชอบ โดยการปิดลานกางเต็นท์ทุกๆลานของหุบเสือโหน่งอย่างไม่มีกำหนด
ทาง”หุบเสือโหน่ง”ขอขอบคุณ คุณหมอที่ได้ช่วยนักท่องเที่ยวที่มีอาการชักเกรงในคืนวันนั้น และทางเราต้องขอโทษแทนคนที่ดูแล แสดงวาจาที่ไม่สุภาพกับคุณหมอด้วยนะครับทางหุบเสือโหน่ง ขอโทษทุกคนด้วยนะครับหวังว่าเหตุการณ์นี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้กับลานกางเต็นท์และนักท่องเที่ยวทุกๆคนนะครับ ..ขอบคุณครับ
ที่มา
Pinky Chan